Читать книгу จุดเปลี่ยน - Ashok Kumawat - Страница 7

Оглавление

บทที่ 7

การจัดสรรภารกิจประจำวัน

คุณทำงานสำคัญในระหว่างวันได้เมื่อใดเช้านี้คุณทำไหมคุณทำระหว่างวันหรือไม่ทำมันได้ในช่วงตอนเย็นๆหรือไม่

บอกผมสิว่า ช่วงเวลาใดที่คุณกระฉับกระเฉงที่สุดในตลอดทั้งวันนี้

เมื่อคุณตื่นขึ้นจากการนอนนั่นคือในช่วงเช้า

ดังนั้นคุณควรทำงานที่สำคัญทั้งหมดของคุณในตอนเช้าในตอนเช้าสมองของคุณจะตื่นตัวมากณเวลานี้อะไรก็ตามที่คุณต้องการที่จะเรียนรู้คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย

เมื่่อคุณตื่นขึ้นมาจากการนอนแล้วรู้สึกสดชื่นนั่นแหละในเวลานี้ความคิดที่ไร้สาระจะไม่ได้อยู่ในใจคุณอีกแล้วดังนั้นให้เลือกเวลานี้เพื่อทำงานที่สำคัญที่สุดของคุณ

แบ่งงานของคุณออกเป็น 3 ส่วนในแต่ละวัน–

(1). งานที่สำคัญที่สุด

(2). งานบางอย่างที่สำคัญรองลงมา

(3). งานที่สำคัญน้อยลงมา

(4). บทบาทด้านความบันเทิง

(1). ทำงานที่สำคัญที่สุดในช่วงแรกของวันในเวลานี้อย่าคิดอะไรทั้งสิ้นมีแต่งานเท่านั้น

(2). หลังจากเสร็จงานที่สำคัญที่สุดแล้วพักสักครู่เติมพลังให้ใจของคุณตอนนี้ทำงานที่สำคัญน้อยรองลงมา

ถ้ามันเสร็จสมบูรณ์แล้วคุณจะต้องพักสักครู่หากคุณต้องการจะสร้างความบันเทิงสักหน่อย

(3). ทำงานที่สำคัญน้อยที่สุดในช่วงสุดท้าย

บทที่ 8

การตื่นนอนแต่เช้าตรู่

คุณตื่นกี่โมงงั้นหรือหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้วใช่ไหม

การตื่นเช้ามีประโยชน์มากมายให้ผมบอกคุณว่าต้องทำยังไง

(ก). เมื่อคุณตื่นนอนแต่เช้าบรรยากาศรอบๆตัวคุณยังคงสงบในช่วงเวลานี้

(ข). ช่วงนี้จะไม่มีบรรยากาศแห่งพลังงานลบ

(ค). หากคุณทำงานที่สำคัญในช่วงเวลานี้จะไม่มีใครจะมารบกวนคุณ

(ง). ในเวลานี้อารมณ์ความรู้สึกของคุณจะสดชื่นขึ้นมากความคิดไร้สาระจะไม่เข้ามาในหัวของคุณเลย

(จ). การตื่นนอนแต่เช้าตรู่ยังช่วยขจัดพลังงานด้านลบของคุณได้อีกด้วย

บทที่ 9

ความแข็งแกร่งของจิตใจ

จิตใจคือส่วนที่ทรงพลังที่สุดในร่างกายของเราจิตของเราสามารถเข้าถึงทั่วทุกมุมโลกในช่วงเวลาเพียงแว็บเดียวสิ่งนั้นเคยเกิดขึ้นกับคุณหรือไม่

“เคยสิ” |

จิตใจของคุณคือความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณหากคุณบอกจิตของคุณให้ทำงานให้เสร็จลุล่วงให้ได้มันจะพยายามทำให้เสร็จสมบูรณ์ในทุกวิถีทางแต่หากว่าอะไรที่คุณไม่สั่งจิตของคุณให้ทำอะไรในบางอย่างแล้วล่ะก็ในสภาวะนี้คุณจะมีแต่ความคิดฟุ้งซ่านซึ่งก่อให้เกิดความไม่สงบคุณจะไม่สามารถไปถึงจุดมุ่งหมายได้เลยในสภาวะแบบนี้

ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตคุณต้องควบคุมจิตใจของตัวเองให้ได้ก่อน

ทำไมสมองของคุณจึงนำพาความคิดฟุ้งซ่านมาสู่ตัวคุณ

ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าสมองคุณรับข้อมูลนี้มาจากที่ใดการมองเห็นผ่านสายตาการได้ยินผ่านหูการสัมผัสทางกายหรือการดมกลิ่นผ่านจมูกการรับรสด้วยลิ้น – สมองรับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าส่วนนี้

(1). การมองเห็นผ่านทางสายตาเมื่อดวงจิตมองเห็นบางอย่างสวยงามผ่านทางสายตามันจะบันทึกข้อมูลนั้นไว้ภายในด้วยตัวมันเองข้อมูลนี้นำพาความคิดมาสู่ตัวคุณครั้งแล้วครั้งเล่าสิ่งเหล่านี้มันจะรบกวนจิตใจของคุณนี่เป็นเหตุผลแรกของความคิดที่จะรบกวนตัวคุณ

(2). รับรู้ด้วยการฟังด้วยหู: เมื่อคุณได้ฟังดนตรีที่ไพเราะสมองคุณจะเก็บบันทึกไว้ภายในตัวคุณเช่นกันข้อมูลเหล่านี้ (เสียงดนตรี) นำความคิดมาสู่คุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สงบนี่คือเหตุผลต่างๆที่ได้นำพาความคิดมารบกวนคุณ

(3). การสัมผัสรสด้วยลิ้น: เมื่อคุณทานบางอย่างที่รสชาติอร่อยแล้วคุณรู้สึกดีกับมันดวงจิตของคุณจะต้องการให้คุณมีความสุขกับมันอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าดังนั้นสมองของคุณจะบันทึกข้อมูลไว้ในโลกภายในตัวคุณซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุของสิ่งที่รบกวนคุณ

(4). การได้กลิ่นผ่านทางจมูก: หากว่าคุณไปที่สวนดอกไม้และได้กลิ่นหอมของดอกไม้แล้วคุณรู้สึกพอใจกับกลิ่นดอกไม้นั่นดวงจิตของคุณจะต้องการหาความสุขแบบนั้นอีกในอนาคตดังนั้นสมองของคุณจะบันทึกข้อมูลไว้ภายในตัวมันเองและนำความคิดแบบเดิมมาตัวสู่คุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งก็เป็นสาเหตุที่รบกวนใจคุณ

(5). การสัมผัสทางกาย: ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น- ชี้ชัดถึงความคิดที่รบกวนจิตใจที่จะเกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสทางกาย

จุดเปลี่ยน

Подняться наверх