Читать книгу ประทานพรแห่งสรรพาวุธ เล่ม 8 ในชุด วงแหวนของผู้วิเศษ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 9

บทที่ สาม

Оглавление

เจ้าชายเคนดริคทรงม้าอยู่เคียงข้างอีเร็ค เจ้าชายบรอนสันและสร็อก ทรงนำทัพทหารหลายพันนายเข้าเผชิญหน้ากับราชาไทรัสและอาณาจักรจักรวรรดิ พวกเขาได้เดินเข้ามาสู่หลุมพรางจากกลอุบายของราชาไทรัส และเจ้าชายเคนดริคทรงตระหนักดีแล้วว่า ในขณะนี้มันสายเกินไปแล้ว และมันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่ทรงไว้ใจเขา

เจ้าชายเคนดริคทอดพระเนตรขึ้นไปทางด้านขวา ทรงเห็นว่าด้านบนสันเขามีพลธนูของจักรวรรดิราวหมื่นนายเตรียมกำลังไว้พร้อม ทางด้านซ้ายพระองค์ทรงเห็นว่ามีจำนวนเท่าๆ กัน ด้านหน้าพวกเขาเป็นกองกำลังทหารทจำนวนมากขึ้นไปอีก กำลังพลเพียงไม่กี่พันของเจ้าชายเคนดริคไม่สามารถจะเข้าไปต่อสู้กับกำลังทหารมากมายเช่นนี้ได้ พวกเขาก็จะถูกสังหารและแพ้อย่างราบคาบ หากพวกพลธนูยิงขยับแค่เพียงเล็กน้อยก็จะฆ่าล้างพลทหารของพระองค์ลงได้ ทางภูมิศาสตร์แล้วการตั้งมั่นอยู่ที่ฐานของหุบเขาก็ไม่ได้ช่วยพวกเขาเลย ราชาไทรัสได้เลือกจุดแห่งการสุ่มโจมตีได้เป็นอย่างดี

เจ้าชายเคนดริคประทับนั่งตรงนั้นอย่างหมดหนทาง พระพักตร์แผดเผาไปด้วยไฟแห่งความเคืองแค้นและเดือดดาล พระองค์ทรงจ้องกลับไปอย่างราชาไทรัสผู้ซึ่งประทับนั่งอยู่บนหลังม้า พร้อมกับรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจโดยมีพระโอรสทั้งสี่อยู่เคียงข้างพระองค์

"เงินสำคัญกับท่านมากนักหรือ?" เจ้าชายเคนดริคตรัสถามราชาไทรัสผู้ซึ่งอยู่ห่างไปราวสิบฟุต พระสุรเสียงของพระองค์แข็งกร้าวดั่งโลหะ  "ท่านถึงได้มาขายพวกเดียวกันเอง เลือดเดียวกันเอง"

ราชาไทรัสไม่ได้แสดงความสำนึกผิดใดๆ ทรงมีรอยยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม

"พวกเจ้าไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับข้า จำได้ไหม?" พระองค์ตรัส " นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมข้าถึงไม่ได้ครองบัลลังก์สืบต่อจากพี่ชายของข้าตามกฎหมาย"

อีเร็คกระแอกลำคอขึ้นด้วยความโกรธเคือง

"กฎหมายแห่งราชวงศ์แม็กกิลกำหนดให้มีการสืบสันติบัลลังค์สู่พระโอรส ไม่ใช่พระอนุชา"

ราชาไทรัสส่ายพระเกศา

"ทั้งหมดมันไม่สำคัญอีกแล้วในตอนนี้ กฎหมายของเจ้าไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป อำนาจสามารถเอาชนะกฎหมายได้ พวกที่มีอำนาจสามารถควบคุมกฎหมายได้ และตอนนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่า ข้าแข็งแกร่งกว่า นั่นหมายถึงนับต่อจากนี้ไป ข้าจะเขียนกฎหมายเอง การสืบต่อราชบัลลังก์จากรุ่นสู่รุ่นจะไม่จดจำกฎหมายเดิมๆของเจ้าอีก ทุกอย่างที่พวกเขาจะจดจำก็คือ ข้า ราชาไทรัสผู้เป็นกษัตริย์ ไม่ใช่เจ้าหรือน้องสาวของเจ้า"

"ราชบัลลังก์ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายจะไม่มีทางอยู่ได้อย่างยืดยาว" เจ้าชายเคนดริคทรงโต้ตอบกลับมา "ท่านอาจจะฆ่าพวกเราได้ หรือแม้ แต่โน้มน้าวแอนโดรนิคัสให้ยินยอมมอบราชบัลลังก์กับเจ้า แต่เจ้าและข้าต่างก็รู้ว่า เจ้าจะไม่ได้ครอบครองบัลลังค์ได้เป็นเวลานาน เจ้าจะถูกทรยศเหมือนกับที่เจ้าทำกับพวกเรา"

ราชาไทรัสประทับนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไร้กังวล

"ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะลิ้มรสชาติแห่งราชบัลลังค์จากช่วงเวลาอันแสนสั้นตราบจนกระทั่งวาระสุดท้าย และข้าก็จะปรบมือให้กับคนทรยศ ที่มีความสามารถเทียบเท่ากันกับวันที่ข้าทรยศเจ้า"

"คุยกันพอแล้ว!" ผู้บัญชาการทหารจักรวรรดิตะโกนขึ้น "จงยอมแพ้หรือยอมตายกันทั้งหมด!"

เจ้าชายเคนดริคทรงจ้องกลับไปด้วยความโกรธเคือง ด้วยทรงทราบดีว่าจะต้องยอมแพ้ แต่ไม่ทรงปรารถนาจะทำเช่นนั้น

"วางอาวุธของพวกเจ้าลง" ราชาไทรัสตรัสอย่างสงบ ด้วยน้ำเสียงปลอบโยน "ข้าจะปฏิบัติกับพวกเจ้าอย่างยุติธรรมเฉกเช่นนักรบ "เจ้าจะเป็นนักโทษแห่งสงคราม ข้าจะไม่ใช้กฎหมายของเจ้า แต่ข้าจะให้เกียรติแก่กฎแห่งสงครามสำหรับนักรบ ข้าให้สัญญากับเจ้าว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า"

เจ้าชายเคนดริคทอดพระเนตรไปยังเจ้าชายบรอนสัน สร็อก และอีเร็ค ผู้ซึ่งจ้องมองกลับมายังพระองค์ พวกเขาทั้งหมดนั่งอย่างสงบเงียบ อย่างอัศวินผู้มีความทรนงโดยมีม้าที่เคลื่อนไหวด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงอยู่เบื้องล่าง

"ทำไมพวกข้าต้องเชื่อใจเจ้าด้วย?" เจ้าชายบรอนสันทรงตะโกนกลับมายังราชาไทรัส "เจ้าได้พิสูจน์แล้วว่าคำพูดของเจ้าไร้ความหมาย และข้าก็มีใจที่จะตายอยู่ที่นี่ ในสมรภูมิรบ เพื่อที่จะล้างรอยยิ้มออกไปจากใบหน้าของเจ้า"

ราชาไทรัสทรงหันกลับมาทำพระพักตร์บึ้งตึงใส่เจ้าชายบรอนสัน

"เจ้าพูดมาได้ เพราะเจ้าไม่ใช่พวกราชวงศ์แม็คกิล เจ้าเป็นแม็คคลาวด์ เจ้าไม่มีสิทธิ์มายุ่งย่ามกับกิจของราชวงศ์แม็คกิล"

เจ้าชายเคนดริคทรงเข้ามาปกป้องพระสหาย "เจ้าชายบรอนสันถือเป็นหนึ่งในชาวแม็คกิลแล้ว พระองค์ตรัสในนามของพวกเรา"

ราชาไทรัสทรงขบกรามแน่นและเห็นได้ชัดว่าทรงรู้สึกรำคาญ

"ทางเลือกเป็นของเจ้า มองดูกำลังของพวกเจ้าเองและทหารพลธนูของพวกเราหลายพันคนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เจ้าแพ้ภูมิปัญญาของเรา แม้ว่าเจ้าจะยกดาบขึ้นมาได้ ทหารของเจ้าก็จะตายคาที่อยู่ตรงนั้น และเจ้าก็มองออกชัดเจนแล้วเรื่องนี้ มันมีช่วงเวลาแห่งการต่อสู้และช่วงเวลาที่ต้องยอมแพ้ หากเจ้าต้องการปกป้องทหารของเจ้าก็จงทำตามสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาที่ดีควรกระทำ วางอาวุธเจ้าลงซะ"

เจ้าชายเคนดริคทรงขบกรามแน่นหลายครั้งหลายครา ทรงรู้สึกแผดเผาอยู่ด้านใน แม้พระองค์จะทรงเกลียดการยอมรับมันมากเท่าไหร่ พระองค์ทรงรู้ว่าราชาไทรัสพูดถูก พระองค์ทรงชำเลืองไปและทรงทราบได้ในทันทีว่า ทหารส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ทั้งหมดนั้นจะถูกฆ่าตายอยู่ตรงนี้หากพยายามต่อสู้ แม้ว่าพระองค์ต้องการจะต่อสู้มากเท่าใด มันก็จะเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว แม้ว่าพระองค์จะดูถูกดูแคลนไทรัสสักเท่าใด แต่พระองค์ทรงทราบว่าที่ราชาไทรัสตรัสเป็นเรื่องจริงที่ทหารของพระองค์จะไม่เป็นอันตราย ตราบใดที่พวกเขามีชีวิตอยู่รอด พวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้อีกในวันข้างหน้า อาจจะเป็นที่อื่นหรือสมรภูมิอื่น

เจ้าชายเคนดริคทอดพระเนตรไปยังอีเร็คชายผู้ซึ่งต่อสู้เคียงข้างกันมานับครั้งไม่ถ้วน ผู้ซึ่งเป็นผู้สุดยอดแห่งทหารกองรบเงิน และทราบว่าเขาก็กำลังคิดในสิ่งเดียวกันอยู่ การเป็นผู้นำนั้นมันต่างจากการเป็นอัศวินอัศวินที่สามารถจะต่อสู้ปลดปล่อยอารมณ์ไปได้อย่างไม่ต้องไตร่ตรอง แต่ผู้นำนั้นจะต้องคิดถึงผู้อื่นก่อนตนเอง

"มันมีช่วงเวลาแห่งอาวุธและช่วงเวลาที่ต้องยอมปล่อยมัน" อีเร็คตะโกนร้อง "เราจะตกลงรับคำของเจ้าในฐานะอัศวิน ทหารของพวกเราจะไม่รัยอันตรายและ ในเงื่อนไขนั้นพวกเราก็จะวางอาวุธลง หากเจ้าฝ่าฝืนไม่ทำตามคำพูดแล้ว ดวงจิตที่พักพิงแด่พระเจ้า ข้าจะกลับมาจากขุมนรกเพื่อแก้แค้นพวกเจ้าทุกผู้ทุกคน"

ราชาไทรัสทรงพยักหน้ารับด้วยความพอพระทัย อีเร็คยื่นมือไปวางดาบของเขาลงบนพื้น พร้อมกับปลอกมีด พวกเขาวางอาวุธลงด้วยเสียงกระทบกันดังกังวาน

เจ้าชายเคนดริคก็ทรงกระทำตาม เช่นเดียวกันกับเจ้าชายบรอนสันและสร็อก แต่ละคนมีความรู้สึกลังเล แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นหนทางที่ฉลาด

ด้านหลังพวกเขาตามมาด้วยเสียงดังกระทบกันของอาวุธนับพันๆ ชิ้นที่ตกลงจะอากาศแล้วตกลงสู่พื้นดินของฤดูหนาวกองนักรบเงินทั้งหมดและทหารจากแม็คกิลและเมืองซิเลเซียกำลังยอมแพ้ราชา

ไทรัสทรงยิ้มกว้าง

ตอนนี้ลงจากม้าเขาออกคำสั่งพวกเขาต่างลงจากม้าทีละคนทีละคนและยืนอยู่ด้านหน้าม้าของตนราชาไทรัสทรงแย้มยิ้มราวกับว่า กำลังเฉลิมฉลองกับชัยชนะของตนนี่สำหรับหลายปีที่ข้าถูกเนรเทศไปอยู่ที่เกาะด้านเหนือ ถูกริษยาจากราชสำนักโดยพี่ชายคนโตจากพระราชาอำนาจของเขา แต่ตอนนี้ใครกันที่มีอำนาจเหนือแม็คกิลทั้งหมด"

"อำนาจจากการทรยศเปรียบเสมือนการไร้อำนาจโดยสิ้นเชิง" เจ้าชายบรอนสันตรัสกลับมา

พระพักตร์ราชาไทรัสเปลี่ยนเป็นขมึงถึง ทรงพยักหน้ากลับไปยังทหาร

พวกทหารรีบรุดมาผูกข้อมือของพวกเขาด้วยเชือกหยาบๆ จากนั้นจึงลากพวกเขาออกไปโดยมีพวกเขานับพันๆ เป็นนักโทษ ขณะที่เจ้าชายเคนดริคทรงถูกลากไปนั้น ทันใดนั้นพระองค์ทรงระลึกได้ถึงพระอนุชา เจ้าชายก็อดฟรีย์ พวกเขาตามมาด้วยกัน แต่ยังไม่เห็นพระอนุชากับ ทหารของพระองค์เลย พระองค์ทรงสงสัยว่า บางทีพวกเขาอาจจะหนีไปได้ และพระองค์ก็หวังว่า พวกเขาน่าจะมีโชคชะตาที่ดีกว่าตนเอง บางทีพระองค์อาจจะคาดหวังมากเกินไป

สำหรับเจ้าชายก็อดฟรีย์แล้ว ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้

ประทานพรแห่งสรรพาวุธ เล่ม 8 ในชุด วงแหวนของผู้วิเศษ

Подняться наверх