Читать книгу นภาแห่งเวทมนตร์ หนังสือเล่มที่ 9 ในชุดวงแหวนของผู้วิเศษ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 9

บทที่ สาม

Оглавление

เจ้าชายรีสทรงยืนอยู่ ณ ขอบบ่อลาวา ทอดพระเนตรลงไปอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในขณะที่พื้นพสุธาสั่นไวอย่างรุนแรงอยู่ด้านล่าง พระองค์ทรงแทบไม่สามารถประมวลเรื่องที่พระองค์พึ่งทรงกระทำลงไป กล้ามเนื้อของพระองค์ยังคงเจ็บปวดจากการปล่อยก้อนหินใหญ่ที่ดาบแห่งโชคชะตาฝังตัวอยู่ลงไปในหลุมนั้น

พระองค์เพิ่งจะทำลายอาวุธที่มีพลานุภาพมากที่สุดในอาณาจักรวงแหวน อาวุธในตำนาน ดาบของบรรพบุรุษที่ผ่านมาหลายชั่วคน อาวุธของผู้ที่ถูกเลือก อาวุธหนึ่งเดียวที่ทำให้โล่แห่งพลังยืนหยัดอยู่ได้ พระองค์ทรงขว้างมันลงไปในบ่อของไฟหลอมละลายแล้วเห็น มันถูกหลอม ลูกบอลสีแดงขนาดใหญ่ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและหายสาบสูญไปสู่ความว่างเปล่าด้วยดวงพระเนตรของพระองค์เอง

หายสาบสูญไปชั่วกัลปาวสาน

พื้นพสุธาเริ่มสั่นไหวตั้งแต่นั้นมาและมันยังคงไม่หยุดสั่น เจ้าชายรีสทรงดิ้นรนที่จะทรงตัวพร้อมกับคนอื่นๆ ในขณะที่พระองค์ทรงถอยออกมาจากขอบของหลุมนั่น พระองค์ทรงรู้สึกว่าโลกที่อยู่รายรอบพระองค์นี้กำลังพังทลายลง พระองค์ทรงทำอะไรลงไป? หรือว่าพระองค์ทรงทำลายโล่พลัง หรือทรงทำลายอาณาจักรวงแหวนไปแล้ว? หรือว่าพระองค์ได้ทรงกระทำความผิดครั้งใหญ่หลวงในชีวิต? เจ้าชายรีสทรงให้ความเชื่อมั่นกับพระองค์เอง โดยบอกตนเองว่าทรงไม่มีทางเลือกอื่น ก้อนหินใหญ่และดาบแห่งโชคชะตาหนักเกินกว่าที่พวกเขาจะแบบมันออกไปจากที่นี่ เกินกว่าที่จะแบกมันปีนข้ามกำแพงผาขึ้นไป หรือจะถูกโจมตีโดยพวกสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายรุนแรงอยู่ที่นี่ พระองค์อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและพระองค์ ทรงต้องเลือกทำบางสิ่ง

สถานการณ์ที่สิ้นหวังของพวกเขาก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยนไป เจ้าชายรีสทรงได้ยินเสียงกรีดร้องอยู่ทั่วบริเวณ มันเป็นเสียงดังจากพวกสัตว์ประหลาดนับพัน ที่กัดฟันเสียงสั่นกึกๆ อย่างตกใจผสานกับทั้งเสียงหัวเราะและคำราม เกรี้ยวกราดในเวลาเดียวกัน มันเป็นเสียงดั่งกองทัพของหมาไน เห็นได้ชัดว่า เจ้าชายรีสทรงทำให้พวกมันโกรธที่ทรงฉวยเอาวัตถุอันล้ำค่าของมันไป และตอนนี้พวกมันทุกตัวก็จะทำให้พระองค์ต้องชดใช้

สถานการณ์ยังคงดูแย่เทียบเท่ากับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ตอนนี้อาจจะดูแย่กว่าเดิมก็ได้เจ้าชายรีสทรงหันไปหาคนอื่นๆ ทั้งเอลเด้น อินดรา โอคอนเนอร์ คอนเว่น คร็อกและเซอร์น่าทุกคนต่างมองลงไปในหลุมลาวาด้วยความหวาดกลัว จากนั้นจึงหันไปดูรอบๆ ตัวด้วยความสิ้นหวัง พวกฟอว์หลายพันตัวกรูกันเข้ามาใกล้พวกเขาในทุกทิศทาง พระองค์ทรงคิดเพียงหนทางจะจัดการกับดาบ แต่ทรงลืมคิดว่าจะพาตนเองและคนอื่นๆ ออกจากอันตรายนี้ได้อย่างไร พวกเขายังคงถูกล้อมเอาไว้รอบด้านและไม่มีทางจะออกไปจากที่นั่นได้

เจ้าชายรีสทรงตัดสินใจที่จะหาหนทางออกไป และเมื่อภาระของดาบแห่งโชคชะตาก็หมดไปแล้ว อย่างน้อยๆ ตอนนี้พวกเขาก็สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าชายรีสทรงชักดาบออกมาและทรงเหวี่ยงดาบฉวัดเฉวียนไปในอากาศ เกิดเป็นเสียงพิเศษดังขึ้นมา เหตุใดจะนั่งรอพวกสัตว์ประหลาดให้กรูเข้ามาโจมตีพวกเรา อย่างน้อยพระองค์ก็เลือกที่จะเข้าไปต่อสู้

"บุก!" เจ้าชายรีสทรงตะโกนยังคนอื่นๆ

พวกเขาทุกคนเตรียมอาวุธพร้อมและโผเข้าไปพร้อมกับพระองค์ ตามฝีพระบาทออกไปจากขอบบ่อของลาวา และมุ่งตรงเข้าไปยังฝูงฟอว์อันหนาตา พระองค์ทรงเหวี่ยงดาบไปทุกทิศทาง สังหารพวกมันลงจากทั้งซ้ายและขวา ส่วนด้านข้างพระองค์นั้น เอลเด้นก็ยกขวานศึกตัดหัวพวกมันครั้งละสองหัว ขณะที่โอคอนเนอร์ก็ใช้ธนูของเขายิงไปยังพวกที่กำลังวิ่งมา จัดการพวกที่เข้ามาในทางของเขาลงได้ อินดราเร่งไปข้างหน้าพร้อมใช้ดาบสั้นจ้วงแทงหัวใจได้ครั้งละสองดวง ขณะที่คอนเว่นก็ใช้ทั้งดาบและตะเบ็งเสียงดังลั่นดั่งคนเสียสติ เขาบุกเข้าไป เหวี่ยงดาบอย่างดุเดือดและสังหารพวกฟอว์ได้ทุกทิศทาง เซอร์น่าใช้คฑา ส่วนคร็อกใช้หอกต่อสู้กับพวกที่อยู่ใกล้ตัว

พวกเขารวมตัวกันเป็นเหมือนเครื่องจักรสำหรับการฆ่าสังหาร ต่อสู้เป็นหนึ่งเดียว ต่อสู้เพื่อชีวิตตัดผ่านฝูงฟอว์อันหนาตาออกมา ในขณะที่พยายามหลบหนีอย่างดุเดือด เจ้าชายรีสทรงนำพาพวกเขามายังเนินเขาเล็กๆทรงเล็งที่จะขึ้นไปอยู่ตำแหน่งที่อยู่สูงขึ้นไป

พวกเขาลื่นไถลไปเมื่อพื้นดินสั่นไหวอยู่ตลอด และยังคงไต่ขึ้นไปยังทางลาดชันและปกคลุมไปด้วยโคลน พวกเขาสูญเสียแรงปะทะไปประมาณหนึ่ง มีฟอว์หลายตัวกระโดดขึ้นมาบนเจ้าชายรีส พวกมันใช้กรงเล็บสู้และกัดเข้ากับพระองค์ พระองค์ทรงเหวี่ยงตัวและทรงต่อยพวกมัน แต่พวกมันก็ยังคง เหนี่ยวรั้ง ติดอยู่กับพระองค์ แต่พระองค์ก็ทรงโยนพวกมันออกไปได้ ทรงเตะพวกมันไป จากนั้นจึงจ้วงแทงมันเข้า ก่อนที่พวกมันจะกลับมาโจมตีได้อีก เจ้าชายรีสยังคงทรงต่อสู้ต่อไป แม้จะมีทั้งรอยตัดและรอยฟกช้ำ เจ้าชายรีสและคนอื่นๆก็ต่อสู้เพื่อชีวิตและปีนขึ้นไปยังเนินเพื่อหลบหนีออกไปจากสถานที่นี้ให้ได้

ในที่สุดเขาก็ขึ้นมาอยู่จุดสูงขึ้น เจ้าชายรีสทรงมีช่วงเวลาสำหรับการพักชั่วครู่ พระองค์ทรงยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับสูดหายใจรับอากาศเข้าอย่างกระหืดกระหอบ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นกำแพงของหุบเขาใหญ่อยู่ห่างออกไป ที่มีหมอกหนาตาปกคลุมเอาไว้ พระองค์ทรงรู้ดีว่ามันอยู่ตรงนั้น คือ เชือกที่พวกเขาทิ้งห้อยไว้ตรงหน้าผา และพระองค์ทรงรู้ดีว่าพวกเขาจะต้องกลับไปที่นั่น

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรข้ามพระอังศาทรงเห็นฝูงฟอว์นับพันตัวที่พากันตามพวกเขาขึ้นมายังเนินเขา ฝันของมันพบกันเป็นเสียงดังอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งเหมือนดังมากกว่าเดิมเสียอีกพระองค์ทรงรู้ดีว่าพวกมันจะไม่ปล่อยพระองค์ไป

"แล้วข้าล่ะ?" เสียงหนึ่งกรีดร้องขึ้นมาในอากาศ พระองค์ทรงหันไปและทรงพบว่า เซ็นทรายังอยู่ตรงนั้น เขายังคงถูกจับไว้เป็นตัวประกันอยู่เคียงข้างกับผู้นำของพวกฟอว์ มีฟอว์ตัวหนึ่งจ่อมีดอยู่ที่ลำคอของเขา

"อย่าทิ้งข้าไว้!" เขากรีดร้อง "พวกมันจะฆ่าข้า!"

เจ้าชายรีสทรงยืนอยู่ตรงนั้น ทรงรู้สึกแผดเผาไปด้วยความผิดหวัง เซ็นทราพูดถูก ว่าพวกมันจะฆ่าเขา เจ้าชายรีสทรงไม่สามารถทิ้งเขาไว้ตรงนั้นได้ มันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎแห่งเกียรติยศ อย่างไรเสีย เซ็นทราก็ได้ช่วยพวกเขาไว้ ในยามที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ

เจ้าชายรีสทรงประทับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างลังเล พระองค์ทรงหันไปและเห็นกำแพงของหุบเขาใหญ่ที่อยู่ในระยะไกลมัน มันช่างดึงดูดพระองค์เสียเหลือเกิน

"เรากลับไปหาเขาไม่ได้!" อินดรากล่าวอย่างลนลาน "พวกมันจะฆ่าพวกเราทั้งหมด" นางเตะฟอว์ตัวหนึ่งที่เข้ามา ทำให้มันล้มหงายหลังแล้วไถลลงไปจากทางลาดชัน

"พวกเราโชคดีแล้วที่หนีเอาชีวิตออกมาได้เช่นนี้" เสียวหนูตะโกนกลับไป

"เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรา" คร็อกกล่าว "พวกเราเสี่ยงชีวิตของทั้งกลุ่มเพื่อเขาไม่ได้"

เจ้าชายรีสทรงโต้แย้งกับพระองค์เอง พวกฟอว์เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ และพระองค์ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะทำเช่นไร

"พวกเจ้าพูดถูก"  เจ้าชายรีสทรงยอมรับ "เขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพวกเรา แต่เขาได้ช่วยพวกเราไว้ เขาเป็นคนดี ข้าจะทิ้งเขาไว้ให้อยู่ใต้ความกรุณาของสัตว์พวกนั้นไม่ได้ จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง!" เจ้าชายรีสตรัสอย่างหนักแน่น

เจ้าชายรีสทรงเริ่มลงไปจากเนินที่ลาดชัน เพื่อกลับไปหา เซ็นทรา แต่ก่อนที่พระองค์จะเริ่มต้น คอนเว่นให้บุกออกไปจากกลุ่มโดยทันที เขารี่ลงไป กระโดดและไถลตัวลงยังทางโคลนอันลาดชัน โดยเท้าของเขาไถลลงไปก่อน เขาถือดาบอยู่ในมือ และเมื่อไถลตัวลงไปนั้น เขาก็กวัดแกว่งดาบไปตามทาง ฆ่าฟันพวกฝ่อได้ทั้งซ้ายและขวามเขาเหวี่ยงตัวกลับไปยังตำแหน่งที่พวกเขาจากมา แล้วโผตัวเองเข้าไปยังกลุ่มฟอว์ เขาตัดผ่านทั้งกลุ่มนั้นเข้าไปด้วยความตั้งมั่นอันแน่วแน่

เจ้าชายรีสทรงกระโดดเข้ามาร่วมด้วยอยู่ด้านหลัง

"พวกเจ้าที่เหลือจงอยู่ที่นี่!"เจ้าชายรีสทรงตะโกนขึ้น "จงรอคอยพวกเรากลับมา!"

เจ้าชายรีสทรงตามทางของคอนเว่นไป ทรงฟาดตีพวกฟอว์จากทางซ้ายและขวา ทรงเร่งให้ทันคอนเว่นและทรงระวังหลังให้เขา พวกเขาทั้งสองต่อสู้กลับลงไปจากภูเขาเพื่อช่วยเซ็นทรา

คอนเว่นบุกไปข้างหน้าตัดผ่านฝูงฟอว์ไปได้ ขณะที่เจ้าชายรีสก็ทรงต่อสู้ไปตลอดทางเพื่อไปหาเซ็นทรา ผู้ซึ่งจ้องมองกลับมาพร้อมกับดวงตาเบิกโตด้วยความหวาดกลัว ฟอว์ตัวหนึ่งยกดาบสั้นของมัน เพื่อจะปาดคอของเซ็นทรา แต่เจ้าชายรีสทรงไม่ให้มันมีโอกาสนั้นได้ ทรงก้าวไปข้างหน้าแล้วยกดาบขึ้น พร้อมกับทรงเล็งไปตรงนั้น พระองค์ทรงโยนดาบไปสุดแรงที่มี

ดาบลอยละลิ่วผ่านอากาศไป หมุนวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปักลงอยู่ตรงลำคอของฟอว์ตัวนั้น มันเป็นะจังหวะเดียวกันกับที่มันกำลังจะฆ่าเซ็นทรา เซ็นทรากรีดร้อง เมื่อเขามองไปเห็นฟอว์ตัวนั้นล้มตายลง ฟอว์อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่นิ้ว ใบหน้าของเขาเกือบจะติดอยู่กับใบหน้าของมัน

เจ้าชายรีสทรงตกพระทัยที่คอนเว่นไม่ได้ตามมาช่วย เซ็นทรา แต่เขากลับวิ่งขึ้นไป ยังเนินเล็กๆเมื่อเจ้าชายรีสทอดพระเนตรขึ้นไปทรงรู้สึกหวาดกลัวในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่คอนเว่นดูเหมือนกำลังจะฆ่าตัวตายเขาตัดทางผ่านไปยังกลุ่มของฟอว์ดที่รุมล้อมหัวหน้าของมันอยู่หัวหน้านั่งอยู่ด้านบนสุดตรงแท่นเวที เขากำลังมองดูการต่อสู้นั้นอยู่คอนเว่นข้าพวกมันจากทั้งซ้ายและขวาพวกมันไม่ได้คาดคิดเรื่องนี้มาก่อนทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่พวกมันจะตอบสนองเจ้าชายรีสทรงระลึกได้ว่าคอนเวนต์กำลังพุ่งเป้าไปยังหัวหน้าของพวกมัน

คอนเวนต์เข้าไปใกล้ขึ้น กระโจนตัว ไปในอากาศ เขายกดาบขึ้นมาขณะที่หัวหน้าเริ่มรู้สึกตัวและกำลังจะหนีไป คอนเว่นก็แทงลงเขายังหัวใจของมัน หัวหน้ากรีดร้องเสียงแหลม และทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมดังประสานกันจากพวกฟอว์นับหมื่นตัวที่กรีดร้องลั่น ฟอว์ทุกตัวร้องออกมาราวกับว่าพวกมันถูกแทงเสียเอง มันดูราวกับว่าพวกมันแบ่งระบบเส้นประสาทร่วมกัน และคอนเว่นก็ตัดพวกมันออกเป็นชิ้นๆ

"เจ้าไม่น่าทำเช่นนั้น" เจ้าชายรีสตรัสกับคอนเวนต์ขณะที่พวกเขากลับมายังฝั่งของตน "ตอนนี้เจ้าได้ก่อสงครามขึ้นแล้ว"

ขณะที่เจ้าชายรีสทอดพระเนตรอยู่ด้วยความหวาดกลัว เนินเล็กๆอันหนึ่งก็ประทุออกมา มีฟอว์นับพันๆ ตัวเทกระจาดออกมาอย่างกับฝูงของมด เจ้าชายรีสทรงระลึกได้ว่าคอนเว่นได้ข้าราชินีของมันที่กระตุ้น แรงโทสะความเครียดแค้นของพลเมืองทั้งหมดเสียงพื้นดินสั่นไหวไปด้วยรอยเท้าของพวกมันและพวกมันก็บทฟันและบุกตรงเข้ามายังเจ้าชายรีส คอนเว่นและเซ็นทรา

"หนี!" เจ้าชายรีสทรงตะโกน

เจ้าชายรีสทรงผลัก เซ็นทรา ผู้ซึ่งยืนอยู่ในอาการตกตะลึงพวกเขาทุกคนหันแล้ววิ่งหนีไปพาตัวเองกลับขึ้นไปยังทางลาดชันที่เต็มไปด้วยโคลน

เจ้าชายรีสทรงรู้สึกว่ามีฟอว์หนึ่งตัวกระโดดขึ้นมาอยู่ทางด้านหลังพระองค์กระแทกมันตกลงไปมันดึงช่วงข้อพระบาทให้ตกลงจากทางลาดและฝังเขี้ยวของมันอยู่ในพระศอ

ลูกศรพุ่งตรงเข้ามายังมือของเจ้าชายแล้วจึงตามมาด้วยเสียงลูกศรที่ชนฝั่งเขาอยู่ในเนื้อเจ้าชายรีสทรงทอดพระเนตรขึ้นไปพบว่าโอคอนนอร์สที่อยู่ด้านบนของเนินได้ถือคันศรของเขาอยู่

เจ้าชายรีสทรงกลับขึ้นมายืนบนพระบาท เซ็นทราช่วยให้พระองค์ลุกขึ้น ขณะที่คอนเว่นก็ระวังหลังเอาไว้ เขาต่อสู้กับพวกฟอว์ที่เข้ามา จนในที่สุดพวกเขาก็เร่งไต่ขึ้นมาถึงด้านบนเนินเขาได้ เข้ามาร่วมกับคนอื่นๆ

"ดีเหลือเกินที่พวกท่านกลับมา!" เอลเด้นตะโกนออกมา ขณะที่เร่งไปจัดการฟอว์สามสี่ตัวด้วยขวานศึกของเขา

เจ้าชายรีสทรงหยุดอยู่ด้านบนสุด ทอดพระเนตรออกไปในกลุ่มหมอกและสงสงสัยว่าจะเสด็จไปทางไหนเส้นทางแบ่งออกเป็นสองเส้นและพระองค์ทรงคิดว่าจะไปทางขวา

แต่เซ็นทราเร่งตัวแซงพระองค์ไปอย่างทันใด และนำทางไปด้านซ้าย

"ตามข้ามา!" เซ็นทราตะโกนขึ้น ในขณะที่วิ่งไป"นี่คือหนทางเดียวที่มี"

ในขณะที่ฝูงฟอว์นับพันๆ ก็เริ่มไต่ขึ้นมายังเนินเขา เจ้าชายรีสและคนอื่นๆก็หันและวิ่งตามเซ็นทราไป พวกเขาทั้งลื่นและไถลลงมายังอีกฝั่งหนึ่งของเนิน ขณะที่ทั้งพื้นยังคงมีการสั่นไหว พวกเขาตามการนำของเซ็นทราไป และเจ้าชายรีสก็ทรงซาบซึ้งกว่าเดิมที่ได้ทรงช่วยเหลือชีวิตของเขาไว้

"พวกเราต้องไปถึงหุบเขาใหญ่" เจ้าชายรีสทรงตะโกนขึ้นโดยไม่แน่พระทัยว่าเซ็นทรากำลังไปทางใด

พวกเขาวิ่งไปอย่างเต็มฝีเท้า ตัดผ่านทางที่มีต้นไม้ตะปุ่มตะป่ำอันหนาตา ดิ้นรนตามเซ็นทราให้ทัน ซึ่งเขานำทางได้อย่างคล่องแคล่วตัดผ่านหมอก และขนทางอันขรุขระที่เต็มไปด้วยรากไม้

"นี่คือหนทางเดียวที่จะออกมาจากสัตว์พวกนั้นได้!" เซ็นทรา ตะโกนกลับไป "จงมาตามทางของข้า!"

พวกเขาตามเซ็นทราไปอย่างใกล้ชิด ในขณะที่พระองค์ทรงวิ่งอยู่พระองค์ก็สะดุดรรกไม้ ถูกกิ่งไม้ขีดข่วน เจ้าชายรีสทรงดิ้นรนที่จะทอดพระเนตรผ่านกลุ่มหมอกอันหนาตา พระองค์ทรงสะดุดมากกว่าหนึ่งครั้งบนทางที่ไม่ราบเรียบเส้นทางนี้

พวกเขาวิ่งจนกระทั่งปอดเริ่มมีอาการเจ็บ ด้านหลังพวกเขามีเสียงดังแหลมอันน่ากลัวจากฝูงฟอว์นับพันที่ตามอยู่ไม่ห่าง เอลเด้น โอคอนเนอร์ช่วยพาคร็อกลงมาจากเนินเขา เขาหวังและภาวนาให้ เซ็นทรา รู้ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เขามองไม่เห็นกำแพงผาของหุบเขาใหญ่เลยจากตรงนี้

ทันใดนั้น เซ็นทราก็หยุดในระยะสั้นๆ เขายืนฝ่ามือออกไป แล้วตบลงยังพระอุระของเจ้าชายรีสเพื่อหยุดไม่ให้พระองค์เข้ามาตรงทางนั้น

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรลงไปที่พระบาท ซึ่งมีทางชันลงไปสู่แม่น้ำอันเชี่ยวกราดด้านล่าง

เจ้าชายรีสทรงหันมาหาเซ็นทราอย่างสับสน

"น้ำ" เซ็นทราอธิบายอย่างกระหืดกระหอบเพื่อรับอากาศ "พวกมันกลัวที่จะข้ามน้ำ"

คนอื่นๆหยุดก็อยู่ไม่ห่างจากพวกเขา พร้อมมองลงไปยังสายน้ำที่ไหลกรรโชกอย่างแรงและรวดเร็ว ขณะที่พวกเขาหายใจอย่างกระหืดกระหอบ

"นี่คือหนทางเดียวของเรา" เซ็นทรากล่าวเพิ่ม "ข้ามแม่น้ำนี่ไป และเราก็จะหลุดจากพวกมันไปได้ในตอนนี้ และมีเวลามากขึ้น"

"แต่จะไปได้อย่างไร?" เจ้าชายรีสตรัส ขณะที่ทรงจ้องมองลงไปยังสายน้ำที่เป็นฟองสีเขียว

"กระแสน้ำจะฆ่าพวกเราทั้งหมด!" เอลเด้นกล่าว

เซ็นทรายิ้มเยาะขึ้น

"นั่นคือเรื่องที่พวกเจ้าต้องกังวลน้อยที่สุด" เขาตอบ "สายน้ำนี่เต็มไปด้วยพวกฟอว์เรนที่เป็นสัตว์ร้ายที่สุดบนโลกนี้ หากตกลงไป มันก็จะกัดทึ้งพวกเจ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย"

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรลงไปในสายน้ำอย่างสงสัย

"อย่างนั้น เราไม่สามารถว่ายน้ำไปได้" โอคอนเนอร์กล่าว "และข้าก็มองไม่เห็นเรือสักลำ"

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรมองข้ามพระอังศาไป เสียงของพวกฟอว์ดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

"หนทางเดียวที่มีคือนี่" เขากล่าวพร้อมเอื้อมไปจับเถาวัลย์ที่ติดอยู่กับต้นไม้ มันที่มีกิ่งไม้ยื่นอยู่เหนือแม่น้ำ "พวกเราจะต้องโหนตัวข้ามมันไป "เขากล่าวอย่าลื่น อย่าตกลงไปยังชายฝั่ง ให้โยนมันกลับมา เมื่อเจ้าใช้มันเสร็จแล้ว"

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรลงไปยังสายน้ำอันเชี่ยวกราก และเมื่อนั้นเองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นสัตว์ประหลาดเรืองแสงสีเหลืองขนาดเล็กกระโดดขึ้นมา มันมีลักษณะเหมือนปลาชนิดหนึ่งที่ขากรรไกรขบกันเกิดเป็นเสียงดังอย่างประหลาด พวกมันมีกันหลายฝูงและมองจ้องกลับมาราวกับว่ากำลังรอคอยมื้ออาหารถัดไป

เจ้าชายรีสทรงชำเลืองเหนือพระอังศาไป และทรงพบว่ากองทัพฝูงฟอว์ที่อยู่ยังเส้นขอบฟ้าได้ตามเข้ามาใกล้ พระองค์ไม่มีทางเลือกอื่นอีก

"ท่านไปก่อนเถิด" เซ็นทรา กล่าวกับเจ้าชายรีส

เจ้าชายรีสทรงส่ายพระเศียร "ข้าจะไปเป็นคนสุดท้าย "พระองค์ตรัส "หากว่าพวกเราไม่สามารถไปได้ทันเวลาแล้ว เจ้าจงไปก่อน เจ้าเป็นคนนำ พวกเรามาที่นี่"

เซ็นทราพยักหน้า

"เจ้าไม่ต้องถามข้าซ้ำสอง" พระองค์ตรัสพร้อมแย้มพระสรวล ขณะที่ทรงจ้องพวกฟอว์ที่ใกล้เข้ามาอย่างประหม่า

เซ็นทราคว้าเถาวัลย์ขึ้นมาพร้อมกับกรีดร้องเมื่อกระโดดออกไปเหวี่ยงตัวข้ามน้ำไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาลอยตัวอยู่ตำตำบนเถาวันนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นจากน้ำและได้ยินเสียง ขบฟันเสียงแหลมจากสัตว์ประหลาด จนในที่สุด เขาก็ลงมายังฝั่งที่อยู่ไกลอีกด้าน พร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนอยู่บนพื้น

เขาทำสำเร็จ

เซ็นทรายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับรอยยิ้มเขากว่าเถาวัลย์เหวี่ยงมันกลับมาอีกฝั่งของแม่น้ำเอลเด้นเอื้อมไปและจับมันไว้พร้อมกับยื่นมันให้อินดรา

"เชิญผู้หญิงไปก่อน" เขากล่าว

นางทำหน้าบูดบึ้ง

"ข้าไม่ได้ต้องการการประคบประหงม" นางกล่าว "เจ้าตัวใหญ่เจ้าจะทำให้เขาวันขาดเจ้าไปและทำมันให้เสร็จๆ ซะ จงอย่าตกลงไป หรือไม่งั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องเข้าไปช่วยชีวิตเจ้าไว้"

เอลเด้นทำหน้าบูดบึ้งและไม่ขบขันไปด้วย เขาจับเข้ากับเถาวัลย์

"ข้าก็แค่อยากจะช่วย" เขากล่าวเอลเด้นกระโดดออกไปพร้อมเสียงตะโกนลั่น ข้ามผ่านไปในอากาศ แล้วจึงกลิ้งตกลงอย่างอีกฝั่งหนึ่งเข้ามาอยู่ข้างๆ เซ็นทรา

เขาส่งเถาวัลย์นั้นกลับมา จากนั้นจึงตามมาด้วยเซอร์น่า อินดราและคอนเว่น

มีคนที่เหลืออยู่เพียงสองคนคือ เจ้าชายรีสและคร็อก

"คือ ข้าเดาว่ามันเหลือเพียงแค่เราสองคน" คร็อกกล่าวกับเจ้าชายรีส "ไปเถิด เพื่อรักษาชีวิตพระองค์ไว้" คร็อกกล่าวขณะที่ชำเลืองมองผ่านหัวไหล่ไปอย่างตื่นตระหนก เมื่อพวกฟอว์เข้ามาใกล้มาก จนไม่น่าจะมีเวลาเพียงพอสำหรับพวกเขาสองคนที่จะทำสำเร็จ

เจ้าชายรีสทรงส่ายพระเศียร

"แต่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง!" พระองค์ตรัส "หากเจ้าไม่ไป ข้าก็ไม่ไป"

พวกเขาสองคนยืนอยู่ตรงนั้นยังดื้อดึง คร็อกมองออกไปอย่างตื่นตระหนกและส่ายหัวของเขา

"พระองค์ช่างโง่เง่า ทำไมถึงต้องใส่พระทัจข้ามากถึงเพียงนี้ ข้าไม่เคยใส่ใจพระองค์ถึงครึ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงมีให้ข้าเลย"

"ข้าเป็นผู้นำแล้วในตอนนี้ นั่นทำให้เจ้าอยู่ในความรับผิดชอบของข้า"เจ้าชายรีสตรัส "ข้าไม่ได้ใส่ใจเจ้า ข้าใส่ใจ

กับเกียรติยศและเกียรติยศก็ออกคำสั่งว่า ไม่ให้ข้าทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง"

พวกเขาสองคนหันกลับไปมองอย่างประหม่า เมื่อฟอว์ตัวแรกเข้ามาถึง เจ้าชายรีสทรงก้าวไปข้างหน้า ทรงอยู่ด้านข้างคร็อก พวกเขากวัดแกว่งดาบไปมาฆ่าฟอว์ไปได้หลายตัว

"พวกเราจะไปด้วยกัน" เจ้าชายรีสทรงตะโกนขึ้น

เจ้าชายรีสทรงไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป พระองค์ทรงคว้าคร็อกทรงพาดเขายังพระอังสาและทรงจับเข้ากับเชือกเถาวัลย์และทั้งสองคนก็โผออกไปด้วยกันในอากาศ แกว่งตัวออกไปยังอีกฝั่งหนึ่ง

"ช่วยข้าด้วย" คร็อกกรีดร้องขึ้น

คร็อกค่อยๆ ลื่นหลุดออกจากพระอังสาของเจ้าชายรีสและโผเข้าจับกับ เถาวัลย์ แต่ตอนนี้มันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำจากสายน้ำและมือของ คร็อกเองก็มีความลื่น มันทำให้เขาค่อยๆหล่นไถลตัวลงมา เจ้าชายรีสทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปจับเขาเอาไว้ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พระทัยของเจ้าชายรีสตกฮวบ เมื่อพระองค์ต้องทรงบังคับตนเองให้เฝ้ามองคร็อกตกลงไป หลุดไปจากการไขว่คว้าของพระองค์ ลงสู่ผืนน้ำที่ไหลหลากอยู่ด้านล่าง

เจ้าชายรีสทรงลงยังอีกฝั่งที่อยู่ไกลด้านหนึ่ง และทรงกลิ้งไปอยู่บนพื้นดินพระองค์ทรงม้วนตัวเตรียมแรงกลับเข้าไปที่แม่น้ำ แต่ก่อนที่พระองค์จะตอบสนองสิ่งใดคอนเว่นก็แยกตัวออกมาจากกลุ่มแรงไปข้างหน้าและเข้าไปสู่สายน้ำที่รุนแรงเจ้าชายรีสและคนอื่นๆต่างเฝ้าดูจนแทบหมดลมหายใจ คอนเว่นกำลังทำเรื่องกล้าหาญเจ้าชายรีสทรงสงสัย หรือว่ากำลังฆ่าตัวตายกันแน่?

คอนเวนต์ว่ายน้ำอย่างไร้ความกลัวไปยังกระแสน้ำที่ไหลบ่า เขาเข้ามาถึงคร็อกที่ยังไม่ถูกสัตว์ร้ายกัดและฉวยตัวเขาที่ลอยน้ำไว้ได้ เขาเอาแขนโอบรอบบ่าแล้วฝ่าสายน้ำออกมาด้วยกัน คอนเว่นว่ายน้ำทวนกระแสเพื่อกลับมายังฝั่ง

ทันใดนั้นคร็อกก็กรีดร้องขึ้น

"ขาของข้า!"

คร็อกบิดตัวด้วยความเจ็บปวดในขณะที่ฟอว์เรนตัวหนึ่งฝังเขี้ยวลงในขาของเขาและมันกัดเขาได้ เกล็ดสีเหลืองเป็นเงาของมันสามารถมองเห็นได้เหนือกระแสน้ำ คอนเว่นว่ายน้ำและว่ายน้ำไป จนกระทั่งเขาอยู่ใกล้ชายฝั่งและเจ้าชายรีสกับคนอื่นๆก็เร่งเขามาช่วยลากพวกเขาออกไปจากน้ำ เมื่อนั้นเอง ฝูงของฟอว์เรนก็กระโดดขึ้นมาในอากาศ เพื่อตามพวกเขามา เจ้าชายรีสกับคนอื่นๆจึงพากันตบพวกมันออกไปอย่างแรง

คร็อกบิดตัวไปมา เจ้าชายรีสทอดพระเนตรลงไปเห็นฟอว์เรนตัวหนึ่งยังติดอยู่ที่ขาของเขา อินดราดึงดาบสั้นของนางออกแล้ว ตัดมันลงยังสะโพกของคร็อกในขณะที่เขากรีดร้อง นางงัดเจ้าสัตว์ร้ายออกมาแล้วโยนมันกระแทกลงยังชายฝั่งและกลับลงไปอยู่ในน้ำ

"ข้าเกลียดเจ้า!"คร็อกพูดอย่างเกรี้ยวกราดใส่นาง

"ดี" อินดราตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรไปดูคอนเว่นซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเหลือตัวเปียกโชกและทรงรู้สึกทึ่งกับความกล้าหาญของเขาคอนเวนต์จ้องมองกลับมาอย่างไรความรู้สึกและเจ้าชายรีสทรง ตกพระทัยที่สังเกตว่ามีฟอว์เรนตัวหนึ่งฝังเขี้ยวอยู่ในแขนของเขาและบิดตัวไปมาอยู่ในอากาศเจ้าชายรีส ทรงแทบไม่เชื่อว่าคอนเว่นมีความสงบมากถึงเพียงนี้พระองค์เอื้อมพระหัตถ์ไปอย่างช้าๆแล้วกระชากมันออกพร้อมกับโยนมันกลับลงไปในน้ำ

"มันไม่เจ็บเลยหรือ?"เจ้าชายรีสตรัสถามอย่างงุนงง

คอนเว่นยักไหล่

เจ้าชายรีสทรงวิตก ฃไปกับคอนเว่นมากกว่าที่เคย แม้พระองค์จะชื่นชมในความกล้าหาญของเขา พระองค์ทรงแทบไม่เชื่อว่า นั่นคือความบุ่มบ่ามไร้การยังคิด ที่เขาจะโผเข้าไปหาฝูงสัตว์ร้ายและไม่เคยคิดทบทวนไตร่ตรองให้ดี

อีกฝั่งด้านไกลออกไปของแม่น้ำ ฟอว์หลายร้อยตัวยืนอยู่ตรงนั้น มองออกมาอย่างเกรี้ยวกราดและพากันขบกัดฟันของพวกมัน

"ในที่สุด"โอคอนเนอร์กล่าว "พวกเราก็ปลอดภัย"

เซ็นทราส่ายหัวของเขา

"ก็เพียงแค่ตอนนี้ พวกฟอว์มีความฉลาด พวกมันรู้ว่าแม่น้ำนั้นคดเคี้ยว พวกมันจะเดินอ้อมหาหนทางและหาทางข้ามมา ในไม่ช้า มันก็จะมาถึงฝั่งของเรา เวลาเรามีจำกัดเรา ต้องรีบเคลื่อนย้าย"

พวกเขาตามเซ็นทราไป ในขณะที่เขาวิ่งผ่านทุ่งที่เต็มไปด้วยดินโคลน ผ่านน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมา และนำทางผ่านไปในสภาพภูมิประเทศอันแปลก ประหลาดนี้

พวกเขายังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุด กลุ่มหมอกก็จางหายไป พระทันเจ้าชายรีสรู้สึกเบิกบานที่ได้เห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า นั่นคือกำแพงของหุบเขาใหญ่ หินที่เก่าแก่ส่องประกายอยู่เบื้องหน้า พระองค์ทอดพระเนตรขึ้นไปเห็นกำแพงที่อยู่สูงอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ พระองค์ทรงไม่ทราบว่า พวกเขาจะไปมันขึ้นไปได้อย่างไร เจ้าชายรีทรงยืนอยู่ตรงนี้พร้อมกับคนอื่นๆและมองขึ้นไปด้วยความหวาดกลัว กำแพงดูเหมือนจะมีความ ใหญ่โตขึ้นกว่าตอนที่พวกเขาไต่มันลงมา

พระองค์ทอดพระเนตรมองมันและเห็นสภาพที่ดูแย่ของพวกเขาและสงสัยว่าพวกเขาจะขึ้นไปด้านบนได้อย่างไร พวกเขาทั้งหมดอ่อนล้า ถูกโจมตีและเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เหนื่อยอ่อนมาจากการต่อสู้ มือและเท้าของพวกเขาก็เจ็บแสบ พวกเขาจะสามารถปีนขึ้นไปยังด้านบนได้อย่างไร เมื่อ พลังงานถูกใช้ไปหมดนับตั้งแต่ลงมาถึงที่นี่แล้ว

"ข้าไปไม่ไหว" คร็อกกล่าวพร้อมกับหายใจฟืดฟาด เสียงของเขาแตกพร่า

เจ้าชายรีสทรงรู้สึกในแบบเดียวกัน แต่มิได้ทรงตรัสออกมา พวกเขาถูกตอนจนมุม พวกเขาได้หนีพวกฟอว์มาได้แต่ก็คงจะเป็นได้อีกไม่นาน ในไม่ช้า พวกมันก็จะตามพวกเขาจนเจอ พวกเขาก็จะถูกลุมล้อมและถูกฆ่าตาย  งานหนักทั้งหมดทั้งมวลนี้ ความพยายามทั้งหมดนี้กลับกลายไปเป็นความสูญเปล่า

เจ้าชายรีสไม่ปรารถนาจะสิ้นพระชนม์อยู่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่แห่งนี้หากพระองค์จะต้องสิ้นชีพแล้วก็ขอจากขึ้นไปตายอยู่ข้างบนนั่นอยู่บนดินแดนของพระองค์เองอยู่บนแผ่นดินใหญ่อยู่เคียงข้างกับเซลีสห้าพระองค์มีหนทางมากกว่านี้ ในการหลบหนี

เจ้าชายรีสทรงได้ยินเสียงดังอันน่าขนลุกเมื่อพระองค์ทรงหันมาพบฝูงฟอว์ซึ่งดูเหมือนจะอยู่ห่างไปราวร้อยหลาพวกมันมีกันหลายพันตัวพวกมันสามารถข้ามแม่น้ำมาได้แล้วและกำลังใกล้เข้ามา

พวกเขาทุกคนดึงอาวุธอย่างเตรียมพร้อม

"ไม่มีที่ไหนเหลือให้เราวิ่งไปได้อีกแล้ว"เซ็นทรากล่าว

"อย่างงั้นเราก็จะต่อสู้จนตัวตาย" เจ้าชายรีสทรงตะโกนร้อง

"เจ้าชายรีส!" เสียงหนึ่งดังขึ้น

เจ้าชายรีสทอดพระเนตรขึ้นไปบนกำแพงของหุบเขาใหญ่แล้ว เมื่อเมฆหมอกจางหายไป พระองค์ทรงเห็นใบหน้าที่ทรงคิดว่าเป็นภาพวิญญาณจากความคิดในแว่บแรก พระองค์ทรงแทบไม่เชื่อว่าเบื้องหน้าของพระองค์นั้นจะกรากฎเป็นผู้หญิง ผู้ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงแห่งความคิดถึงของพระองค์เมื่อสักครู่

เซลีส

นางมาทำอะไรที่นี่? นางมาถึงที่นี่ได้อย่างไร? แล้วใครคือผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้านข้างนาง? นางดูเหมือนกับผู้สมานแผลแห่งราชวัง อิลเลพร่า

ทั้งสองนางแขวนตัวอยู่ด้านข้างของหน้าผาโดยมีเชือกยาวและหนาพันอยู่รอบเอวและมือพวกนางกำลังลงมาอย่างรวดเร็วโดยใช้เชือกหนาซึ่งง่ายแก่การฉวยคว้า เซลืสเอื้อมตัวโยนเชือกที่เหลือลงมาแล้วมันตกลงมาราว 50 ฟุตในอากาศเหมือนกับอาหารที่ตกลงจากสรวงสวรรค์และตกมาสู่พระบาทของเจ้าชายรีส

นี่คือทางหนีอีกหนทางหนึ่ง

พวกเขาไม่ลังเล ทุกคนรีบวิ่งไปและเพียงชั่วขณะ พวกเขาก็ปีนขึ้นไปเร็วเท่าที่จะทำได้ เจ้าชายรีสทรงปล่อยให้ทุกคนได้มุ่งหน้าไปก่อน ขณะที่พระองค์กระโดดขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย พระองค์ทรงปีนและดึงเชือกขณะที่ทรงไต่ขึ้นไป วิธีนี้พวกฟอว์ไม่สามารถเข้ามาจับมันได้

ที่ภาคพื้นดินพวกฟอว์มากมายปรากฏตัวขึ้น พวกมันพยายามที่จะขึ้นมาและกระโดดขึ้นเพื่อดึงพระบาท ซึ่งมันก็พลาดเจ้าชายรีสไปได้เพียงน้อยนิด

เจ้าชายรีสทรงหยุด ในขณะที่พระองค์ได้มาถึงตัวเซลืสผู้ซึ่งรอคอยพระองค์อยู่ตรงเชิงผา พระองค์ทรงเอนพระวรกายเข้าไปและจุมพิตนาง

"ข้ารักเจ้า" พระองค์ตรัส พระองค์ทรงรู้สึกถึงความรักที่มีต่อนางแผ่ซ่านไปทั่วพระวรกาย

"และข้าก็เช่นกัน"นางตอบกลับมา

พวกเขาทั้งสองคนหันไปและมองยังกำแพงของหุบเขาใหญ่พร้อมกับคนอื่นๆ พวกเขาปีนขึ้นไปสูงขึ้นและสูงขึ้น จนกระทั่งพวกเขาได้กลับขึ้นมายังดินแดนแห่งบ้านเกิด เจ้าชายรีสทรงแทบไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้

บ้านเกิด

นภาแห่งเวทมนตร์ หนังสือเล่มที่ 9 ในชุดวงแหวนของผู้วิเศษ

Подняться наверх