Читать книгу หน้าที่ของผู้กล้า - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 7
บทที่ สอง
Оглавлениеธอร์พยายามดิ้นรน แต่ถูกทหารจักรวรรดิจับตัวไว้แน่น เขาดูอับจนหนทางขณะที่เดิร์ส ผู้ที่เขาเคยคิดว่าเป็นพี่ชายยกดาบเตรียมจะฆ่าเขา
ธอร์หลับตาและเตรียมพร้อม เขารู้ว่าเวลาของเขามาถึงแล้ว เขาอยากจะเตะตัวเองที่ช่างโง่เง่าและไว้ใจคนง่าย พวกเขาจัดฉากหลอกธอร์มาตั้งแต่แรก ให้เป็นลูกแกะที่ถูกนำไปเชือด และที่ร้ายกว่านั้น คนอื่น ๆ ต่างรอฟังคำแนะนำจากเขาในฐานะผู้นำ เขาไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองผิดหวัง เขายังทำให้ทุกคนย่ำแย่ไปกับเขาด้วย ความซื่อของเขา และความไว้ใจคนง่ายทำให้ทุกคนอยู่ในอันตราย
ขณะที่ธอร์กรินดิ้นรน เขาพยายามรวบรวมกำลัง พยายามเรียกหามันจากที่ไหนสักแห่งภายในตัวเอง แค่ให้มีพลังพอที่จะเป็นอิสระและตอบโต้กลับได้
แต่ถึงเขาพยายาม มันก็ไม่เกิดขึ้น กำลังของเขาเองมีไม่พอที่จะดิ้นหลุดจากทหารที่จับตัวเขากดไว้
ธอร์รู้สึกถึงสายลมที่ลูบไล้ใบหน้าเมื่อเดิร์สเหวี่ยงดาบลงมา เขาเตรียมตัวรับคมดาบที่กำลังจะมาถึง เขายังไม่พร้อมที่จะตาย ใจเขาคิดถึงราชินีเกว็นโดลีนที่กำลังคอยเขาอยู่ที่อาณาจักรวงแหวน ธอร์รู้สึกว่าเขาทำให้พระนางทรงผิดหวังด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นธอร์ได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เขาลืมตาและต้องประหลาดใจที่เห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แขนของเดิร์สแข็งค้างอยู่กลางอากาศ ข้อมือของเขาถูกทหารจักรวรรดิที่ตัวใหญ่กว่าจับไว้ เขารับมือไม่ได้ง่าย ๆ เมื่อดูจากขนาดตัวของเขาแล้ว ทหารยึดข้อมือเดิร์สไว้ก่อนที่เขาจะฟันลงมาที่ธอร์แค่ไม่กี่นิ้ว
เดิร์สหันไปมองทหารจักรวรรดิด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“หัวหน้าของเราไม่ต้องการให้พวกมันตาย” ทหารพึมพำบอกเดิร์สเสียงเข้ม “เขาต้องการพวกมันเป็น ๆ ในฐานะนักโทษ”
“ไม่มีใครบอกพวกเราเรื่องนั้น” เดิร์สประท้วง
“ตกลงกันไว้ว่าพวกเราจะได้ฆ่ามัน!” ดรอสส์เสริม
“ข้อตกลงเปลี่ยนแล้ว” ทหารตอบ
“ท่านทำอย่างนั้นไม่ได้” เดรคตะโกน
“อย่างนั้นหรือ?” ทหารหันมาถามเสียงเข้ม “เราทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ ที่จริงตอนนี้พวกเจ้าก็เป็นนักโทษเหมือนกัน” ทหารจักรวรรดิยิ้ม “ยิ่งมีทหารยุวชนให้เรียกค่าไถ่มากขึ้นก็ยิ่งดี”
เดิร์สมองดูทหารจักรวรรดิใบหน้าบูดบึ้ง ครู่ต่อมาเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเมื่อทหารจักรวรรดิหลายสิบคนกระโจนใส่สามพี่น้อง กดพวกเขาไว้กับพื้นแล้วมัดข้อมือไว้
ธอร์อาศัยจังหวะช่วงเหตุการณ์ชุลมุน หันไปมองหาโครห์น เขาเห็นมันอยู่ห่างไปไม่กี่ฟุต ซ่อนอยู่ในเงามืด เฝ้าอยู่ข้างเขาอย่างจงรักภักดี
“โครห์น ช่วยข้า!” ธอร์ตะโกน “เดี๋ยวนี้!”
โครห์นกระโจนเข้ามาพร้อมคำราม มันฝังเขี้ยวใส่ลำคอของทหารจักรวรรดิคนที่จับข้อมือธอร์ไว้ ธอร์ดิ้นหลุด โครห์นกระโจนจากคนหนึ่งไปหาอีกคนหนึ่ง มันกัดและตะปบจนธอร์เป็นอิสระและหยิบดาบขึ้นมาได้ เขาหมุนตัวมาและสามารถตัดหัวทหารสามคนได้ในการฟันครั้งเดียว
ธอร์พุ่งไปหาเจ้าชายรีซที่อยู่ใกล้เขาที่สุด แล้วแทงใส่ทหารคนที่จับตัวพระองค์ไว้ ช่วยให้พระองค์เป็นอิสระและทรงสามารถชักพระแสงดาบออกมาร่วมต่อสู้ ทั้งสองแยกกันไปช่วยเพื่อนทหารยุวชนคนอื่น ๆ โจมตีใส่ทหารที่จับตัวพวกเขาไว้ และช่วยให้เอลเด็น โอคอนเนอร์ คอนวอลและคอนเวนเป็นอิสระ
ทหารคนอื่น ๆ มัวยุ่งอยู่กับการจับตัวเดรค เดิร์สและดรอสส์ ตอนที่พวกมันหันมาและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็สายเกินไปแล้ว ธอร์ เจ้าชายรีซ โอคอนเนอร์ เอลเด็น คอนวอลและคอนเวนเป็นอิสระ มีอาวุธอยู่ในมือ แต่พวกเขามีจำนวนน้อยกว่ามาก ธอร์รู้ว่าคงจะรับมือไม่ได้ง่ายนัก แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสสู้ ทุกคนบุกเข้าใส่อย่างไม่ยั้งและไม่หวาดหวั่น
ทหารจักรวรรดินับร้อยโจมตีเข้าใส่ ธอร์ได้ยินเสียงร้องแหลมสูงขึ้นไปเหนือหัว เขาเห็นเอสโตฟิลีส เหยี่ยวของเขาบินโฉบลงมาแล้วตะปบตาทหารคนที่เป็นหัวหน้า จนมันล้มลงไปนอนดิ้นอยู่บนพื้น เอสโตฟิลีสตะปบใส่ทหารอีกหลายคน จัดการมันลงไปกองทีละคน
ขณะที่พวกมันบุกเข้ามา ธอร์หยิบลูกหินใส่หนังสติ๊กของเขาแล้วยิงโดนขมับทหารคนหนึ่ง คว่ำมันได้ก่อนที่จะมาถึงพวกเขา โอคอนเนอร์ยิงธนูออกไปสองลูก มันโดนจุดตายอย่างแม่นยำ ขณะที่เอลเด็นขว้างหอกโดนทหารสองคนล้มทั้งยืน มันเป็นการเปิดศึกที่ดี แต่ยังเหลือทหารอีกเป็นร้อยคนให้จัดการ
พวกเขาอยู่ตรงกลาง ส่งเสียงร้องข่มขวัญ ธอร์มุ่งความสนใจไปที่ทหารคนหนึ่งเป็นพิเศษ ตามที่ถูกสอนมา เขาเลือกคนที่ตัวใหญ่ที่สุดและดุร้ายที่สุดที่หาได้ แล้วเงื้อดาบขึ้นสูง เกิดเสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นเมื่อมันยกโล่ขึ้นรับดาบของธอร์ แล้วเหวี่ยงค้อนลงมาใส่หัวธอร์ทันที
ธอร์ฉากหลบ ค้อนจึงกระแทกจมลงไปในดิน เขาดึงมีดสั้นออกมาจากเข็มขัดแล้วแทงใส่ศัตรู มันล้มลงไปนอนตาย
ธอร์ยกโล่ขึ้นมารับดาบที่ทหารสองคนฟันลงมาทันเวลา ก่อนจะฟันตอบโต้ และจัดการสังหารพวกมันได้หนึ่งคน เขากำลังจะเหวี่ยงดาบใส่อีกคน ตอนที่เหลือบไปเห็นดาบกำลังเหวี่ยงมาหาจากด้านหลัง เขาต้องหมุนตัวมาใช้โล่รับไว้
ตอนนี้ธอร์ถูกโจมตีจากรอบด้าน แพ้จำนวนอย่างมากและเขาทำได้แค่คอยรับดาบที่กระหน่ำฟันใส่ เขาไม่มีเวลาและกำลังที่จะโต้กลับ ทำได้แค่คอยป้องกัน ทหารจักรวรรดิกรูเข้ามาหามากขึ้นเรื่อย ๆ
ธอร์มองดูรอบ ๆ เขาเห็นเพื่อน ๆ ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่พอกัน แต่ละคนสามารถจัดการทหารจักรวรรดิไปได้หนึ่งหรือสองคน แต่ก็มีจำนวนน้อยกว่าอย่างมาก ทุกคนต่างมีบาดแผลคนละเล็กละน้อยจากการถูกโจมตีจากรอบด้าน ธอร์บอกได้ว่าพวกเขากำลังจะเพลี่ยงพล้ำ แม้จะมีโครห์นกระโดดเข้ามาร่วมวง และมีอินดราช่วยปาหินใส่กลุ่มทหาร ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะถูกล้อมและถูกจัดการในที่สุด
“ปล่อยพวกเราสิ!” มีเสียงบอกขึ้น
ธอร์หันไปเห็นเดรค ถูกมัดรวมอยู่กับพี่น้อง ห่างไปไม่กี่ฟุต
“ปล่อยพวกเรา!” เดรคบอกซ้ำ “เราจะช่วยพวกเจ้าสู้เอง! เรามีเป้าหมายเดียวกัน!”
ขณะที่ธอร์ยกโล่ขึ้นรับขวานศึกที่ฟาดใส่อย่างแรง เขาคิดว่าการได้คนมาช่วยเพิ่มอีกสามคนก็น่าจะดีมาก เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่มีพวกนั้น ทุกคนก็ไม่มีโอกาสจะต่อกรกับทหารพวกนี้ ธอร์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถไว้ใจสามพี่น้องนี้ได้อีกแล้ว แต่ในขณะนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียหากจะลองดู ถึงอย่างไรสามพี่น้องนี้ก็มีแรงกระตุ้นที่จะต่อสู้เหมือนกัน
ธอร์รับดาบที่ฟันเข้าใส่อีกครั้ง ก่อนจะทรุดลงคุกเข่าแล้วกลิ้งตัวไปหลายฟุต จนกระทั่งไปถึงตัวสามคนพี่น้อง เขากระโดดลุกขึ้นแล้วตัดเชือกให้ทีละคน ช่วยป้องกันพวกเขาจากการฟาดฟัน ขณะที่แต่ละคนชักดาบออกมาแล้วเข้าร่วมวง
เดรค ดรอสส์ และเดิร์สพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหารจักรวรรดิ โจมตี ฟาดฟัน กระแทกและแทงใส่ พวกเขาแต่ละคนตัวใหญ่และมีฝีมือ อาศัยจังหวะที่ทหารจักรวรรดิไม่ทันระวังตัวสามารถสังหารพวกมันไปได้หลายคน และช่วยพลิกสถานการณ์ ธอร์รู้สึกไม่แน่ใจที่ปล่อยพวกนั้นเป็นอิสระ แต่หลังจากสิ่งที่พวกเขาได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด ดีกว่าถูกฆ่าตาย
ตอนนี้พวกเขามีกันเก้าคน รับมือกับทหารจักรวรรดิที่เหลือราวแปดสิบคนหรือกว่านั้น สถานการณ์ยังคงย่ำแย่ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่าที่เคยเป็น
ทหารยุวชนทุกคนใช้ทักษะที่ฝึกฝนมาของพวกเขา จากการฝึกที่ติดตัวพวกเขามาระหว่างการฝึกร้อยวัน พวกเขาถูกฝึกนับครั้งไม่ถ้วนให้ต่อสู้เมื่อตกอยู่ในวงล้อมและมีจำนวนน้อยกว่า ทุกเขาทำตามที่คอล์คและบรอมฝึกพวกเขามา ทุกคนถอยหลังชนกันเป็นวงกลม และต่อสู้กับทหารจักรวรรดิกลุ้มรุมเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขามีกำลังใจมากขึ้นจากการที่มีคนมาช่วยอีกสามคน มีพลังฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง และตอบโต้อย่างแข็งขันกว่าก่อนหน้านี้
คอนวอลหยิบกระบองตุ้มเหล็กออกมาแล้วเหวี่ยงใส่ศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า สามารถจัดการทหารจักรวรรดิไปได้สามคน ก่อนที่จะถูกกระชากสายโซ่ไป คอนเวนคู่แฝดของเขาใช้กระบองตุ้มเหล็กธรรมดา เล็งต่ำและฟาดขาของพวกทหารจักรวรรดิ โอคอนเนอร์ไม่สามารถใช้ธนูของเขาได้ในระยะประชิด แต่เขาก็สามารถหยิบมีดสั้นจากเอวแล้วขว้างใส่พวกทหาร จัดการสังหารพวกมันได้สองคน เอลเด็นใช้ค้อนศึกสองมือของเขาฟาดฟันอย่างรุนแรง เหวี่ยงใส่ดาบที่ฟันมารอบ ๆ ตัว ธอร์และเจ้าชายรีซใช้ดาบปัดป้องและฟาดฟันอย่างช่ำชอง ในขณะนั้นธอร์รู้สึกว่ามีความหวัง
แต่แล้วธอร์ก็เห็นจากหางตาว่ามีบางอย่างที่รบกวนเขา เขาเห็นหนึ่งในสามพี่น้องวิ่งตัดวงของเพื่อนทหารยุวชนมา ธอร์หันไปเห็นเดิร์ส เขากำลังวิ่งมา ไม่ได้วิ่งไปหาทหารจักรวรรดิ แต่กำลังวิ่งมาหาเขา มาหาธอร์ ตรงเข้ามาที่ด้านหลังธอร์
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ธอร์กำลังสู้กับทหารจักรวรรดิสองคนตรงหน้าเขา ไม่สามารถหันไปรับมือได้ทันเวลา
ธอร์รู้ว่าเขากำลังจะตาย กำลังจะถูกแทงจากด้านหลังโดยคนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าเป็นพี่ชาย คนที่เขาเคยซื่อยอมเชื่อใจถึงสองครั้ง
ทันใดนั้นคอนวอลก็ก้าวเข้ามาขวางไว้ เพื่อปกป้องธอร์
และเมื่อเดิร์สเหวี่ยงดาบลงมาใส่หลังธอร์ ก็กลายเป็นฟันเข้าที่อกของคอนวอลแทน
ธอร์หันไปร้องตะโกน “คอนวอล!”
คอนวอลยืนแข็งค้าง ตาเบิกโพลงเหมือนเห็นความตาย ขณะที่ก้มมองดูดาบแทงทะลุหัวใจของเขา โลหิตไหลทะลักไปตามลำตัว
เดิร์สยืนมองตอบมา อย่างประหลาดใจไม่แพ้กัน
คอนวอลทรุดลงคุกเข่า โลหิตไหลจากออก ธอร์มองเห็นเป็นภาพช้า เมื่อคอนวอล เพื่อนสนิท คนที่เขารักเหมือนพี่น้อง ล้มหน้าคว่ำลงบนพื้น สิ้นใจตาย เพราะช่วยชีวิตธอร์
เดิร์สยืนอยู่เหนือเขา ก้มลงมองดูด้วยความตกใจในสิ่งที่ทำลงไป
ธอร์ยื่นดาบออกไปเพื่อจะสังหารเดิร์ส แต่คอนเวนเร็วกว่าเขา คู่แฝดของคอนวอลพุ่งออกไป เหวี่ยงดาบเป็นวงกว้าง ตัดหัวเดิร์สหลุดจากบ่า และร่างของเขาทรุดฮวบลงกับพื้น
ธอร์ยืนมองด้วยใจวาบโหวง ความรู้สึกผิดบีบรัดเขา เขาตัดสินใจผิดพลาดมากเกินไป หากเขาไม่ปล่อยเดิร์สเป็นอิสระ ป่านนี้คอนวอลก็คงยังมีชีวิตอยู่
พวกเขาเปิดด้านหลังเป็นเป้าให้แก่พวกจักรวรรดิ พวกมันจึงสบโอกาส กรูกันเข้ามาทางช่องที่เปิดอยู่ ธอร์โดนค้อนศึกฟาดเข้าที่สะบัก แรงจนทำให้เขาหน้าทิ่มลงไปกับพื้น
ก่อนที่ธอร์จะทันลุกขึ้น ทหารหลายคนก็กระโจนเข้าใส่ เหยียบหลังเขาไว้ จากนั้นคนหนึ่งกระชากผมเขาไว้ แล้วก้มลงมาหาพร้อมมีดสั้น
“บอกลาได้แล้ว เจ้าหนู” ทหารคนนั้นบอก
ธอร์หลับตาลง ขณะนั้นเองเขารู้สึกว่าตัวเขาถูกส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง
ได้โปรดเถิด พระผู้เป็นเจ้า ธอร์บอกตัวเอง ขอให้ข้ามีชีวิตอยู่ในวันนี้ ขอให้ข้ามีพลังพอที่จะจัดการทหารพวกนี้ ข้าขอตายวันอื่น ที่อื่นอย่างมีเกียรติด้วยเถิด ขอให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อเพื่อแก้แค้น และได้เห็นเกว็นโดลีนเป็นครั้งสุดท้ายเสียก่อน
ขณะที่ธอร์นอนมองมีดสั้นเคลื่อนลงไปหา เขารู้สึกว่าเวลาเดินช้าลงจนเกือบหยุด จู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงพลังความร้อนแล่นขึ้นมาตามขา สู่ลำตัวและแขน ไปจนถึงฝ่ามือ สู่ปลายนิ้ว อาการแปลบปลาบรุนแรงจนเขาไม่สามารถหุบนิ้วได้ พลังความร้อนพลุ่งพล่านพร้อมที่จะปะทุผ่านเขาออกไป
ธอร์หมุนตัว รู้สึกมีกำลังขึ้นอีกครั้ง เขายื่นฝ่ามือใส่ทหารที่เข้ามาโจมตี ลูกไฟสีขาวพุ่งออกจากฝ่ามือของเขากระแทกใส่ทหารจักรวรรดิจนกระเด็นลอยไปกระแทกทหารอีกหลายคนล้มคว่ำไปด้วย
ธอร์ยืนขึ้น รู้สึกถึงพลังงานที่ท่วมท้น เขายื่นฝ่ามือไปทั่วสนามรบ ลูกไฟสีขาวลอยไปทั่ว เกิดคลื่นพลังทำลายล้างที่รุนแรงและรวดเร็ว ภายในไม่กี่นาที ทหารจักรวรรดิทั้งหมดก็นอนตายกองกันเป็นพะเนิน
เมื่อเหตุการณ์สงบลง ธอร์หันมองสำรวจดูเพื่อน ๆ เขา เจ้าชายรีซ โอคอนเนอร์ เอลเด็นและคอนเวนยังมีชีวิตอยู่ โครห์นกับอินดรายืนอยู่ไม่ห่าง ยังไม่ตายเช่นกัน เจ้าโครห์นหอบแรง ทหารจักรวรรดิตายหมด และคอนวอลที่นอนสิ้นใจอยู่บนพื้น
ดรอสส์ก็ตายด้วย เขาถูกทหารจักรวรรดิคนหนึ่งใช้ดาบแทงเข้าที่หัวใจ
คนเดียวที่ยังเหลือรอดคือเดรค เขานอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น ที่ท้องมีแผลถูกแทงด้วยมีดสั้นของพวกจักรวรรดิ ธอร์เดินเข้าไปหา ขณะที่เจ้าชายรีซ โอคอนเนอร์และเอลเด็นฉุดกระชากเดรคที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดให้ลุกขึ้นยืน
เดรคที่มีสีหน้าเจ็บปวด ดูสะลึมสะลือ ยิ้มเยาะมาให้อย่างอวดดี
“เจ้าน่าจะฆ่าพวกเราเสียตั้งแต่แรก” เดรคบอก โลหิตหยดจากปากเขา ก่อนจะไออยู่นาน “เจ้ามันซื่อเกินไป โง่เกินไปอยู่เสมอ”
ธอร์รู้สึกหน้าร้อน ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงเชื่อพวกเขา และที่เขาโกรธที่สุดคือความซื่อของเขาทำให้คอนวอลต้องตาย
“ข้าจะถามเจ้าแค่ครั้งเดียว” ธอร์คำราม “บอกข้ามาตามความจริง แล้วเราจะไว้ชีวิตเจ้า หากโกหก เจ้าจะได้ตายตามน้องชายของเจ้าไป เจ้าเลือกเอา”
เดรคไออีกหลายครั้ง
“ดาบอยู่ที่ไหน?” ธอร์ถาม “บอกความจริงมา”
เดรคไอสำลักอีกหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้น มองสบตาธอร์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ไม่มีวันจม” เดรคตอบออกมาในที่สุด
ธอร์หันมามองดูคนอื่น ที่มองเขาอย่างงุนงงเช่นกัน
“ไม่มีวันจมหรือ?” ธอร์ถาม
“มันคือทะเลสาบไร้ก้น” อินดราเอ่ยแทรกขึ้น พลางก้าวมาด้านหน้า “อยู่ที่อีกฟากของมหาทะเลทราย เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุด”
ธอร์นิ่วหน้าใส่เดรค
“ทำไม?” เขาถาม
เดรคไออีก เริ่มอ่อนแรงลง
“เป็นรับสั่งของราชากาเร็ธ” เดรคบอก “พระองค์ต้องการให้ทิ้งมันในที่ที่มันจะไม่กลับมาอีก”
“แต่เพราะอะไรกันเล่า?” ธอร์รุกถามด้วยความสงสัย “เหตุใดจึงต้องทำลายดาบ?”
เดรคเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
“หากพระองค์ทรงไม่สามารถยกมันได้” เดรคบอก “ก็จงอย่ามีใครทำได้”
ธอร์มองดูเขานิ่งนาน ในที่สุดเขาก็พอใจว่าเดรคพูดความจริง
“ถ้าอย่างนั้นเวลาของเราก็เหลือน้อย” ธอร์บอก เตรียมพร้อมที่จะไปต่อ
เดรคส่ายหน้า
“เจ้าไม่มีทางไปที่นั่นได้ทันเวลา” เดรคบอก “พวกนั้นนำหน้าเจ้าอยู่หลายวัน ป่านนี้ดาบคงหายไปตลอดกาลแล้ว ยอมแพ้และกลับไปที่อาณาจักรวงแหวนเถอะ รักษาชีวิตของพวกเจ้าไว้”
ธอร์ส่ายหน้า
“พวกเราไม่คิดเช่นนั้น” เขาตอบ “เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อรักษาชีวิต เรามีชีวิตอยู่เพื่อความกล้าหาญ เพื่อคำปฏิญาณของพวกเรา และเราจะไปทุกที่ที่มันจะนำเราไป”
“เจ้าเห็นไหมล่ะว่าตอนนี้ความกล้าของพวกเจ้านำเจ้ามาที่ไหน” เดรคบอก “แม้เจ้าจะมีความกล้า แต่ก็โง่เง่า เหมือนกับคนอื่น ๆ ความกล้าหาญนั้นไร้ค่า”
ธอร์ยิ้มเยาะตอบ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าถูกเลี้ยงดูและใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่กับสิ่งมีชีวิตตนนี้
ธอร์กำด้ามดาบแน่นจนข้อนิ้วขาว ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสังหารเด็กหนุ่มคนนี้ สายตาของเดรคมองตามมือเขา
“เอาเลย” เดรคบอก “ฆ่าข้าเลย จัดการเสียเดี๋ยวนี้ให้สิ้นเรื่องไป”
ธอร์จ้องมองเขาเนิ่นนาน ปรารถนาที่จะทำตาม แต่เขาได้ให้สัญญากับเดรคว่าหากบอกความจริงแล้วจะไว้ชีวิต และธอร์รักษาคำพูดเสมอ
“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า” ธอร์เอ่ยขึ้นในที่สุด “แม้เจ้าจะสมควรตายมากเพียงใดก็ตาม เจ้าจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือข้า มิเช่นนั้นข้าก็คงจะต่ำช้าไม่ต่างจากเจ้า”
ขณะที่ธอร์หันหลังจากไป คอนเวนก็พุ่งเข้ามาพร้อมส่งเสียงร้อง
“เพื่อพี่ชายข้า!”
คอนเวนชักดาบออกมาแล้วแทงเข้าที่หัวใจของเดรค ก่อนที่ใครจะทันทำอะไร สายตาของคอนเวนลุกโชนด้วยความโกรธแค้น และเศร้าโศก ขณะที่เขานำเดรคไปสู่ความตายและมองดูร่างของเดรคอ่อนเปียกลงกับพื้นและสิ้นใจตาย
ธอร์มองดูและรู้ว่าความตายนั้นชดเชยความสูญเสียของคอนเวนได้เพียงน้อยนิด แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็มีความหมายสำหรับความสูญเสียของทุกคน
ธอร์มองออกไปยังทะเลทรายเวิ้งว้างตรงหน้า และรู้ว่าดาบแห่งโชคชะตาอยู่ไกลจากเขตแดนของทะเลทรายแห่งนี้ มันดูเหมือนอยู่อีกฟากโลก เขาคิดว่าการเดินทางสิ้นสุดแล้ว แต่เขาได้รู้แล้วว่ามันยังไม่เริ่มต้นด้วยซ้ำ