Читать книгу กำเนิดความกล้าหาญ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 13

บทที่หนึ่ง

Оглавление

ไคร่าเดินอย่างเชื่องช้าผ่านกองซากศพ เสียงหิมะดังกรอบแกรบใต้รองเท้าบูท ซึมซับหายนะที่มังกรได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง เธอพูดอะไรไม่ออกเลย ทหารของท่านลอร์ดจำนวนหลายพันคน ทหารที่น่าประหวั่นมากที่สุดในเอสคาลอน ขณะนี้นอนตายอยู่ตรงหน้าเธอ ถูกกำจัดเสียสิ้นในทันที ซากศพที่ไหม้ดำมีควันขึ้นอยู่รอบตัวเธอ หิมะที่อยู่ภายใต้ละลายหายไปสิ้น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสก่อนตาย โครงกระดูกบิดเบี้ยวในรูปลักษณ์ที่ผิดธรรมชาติ มือที่เหลือแต่กระดูกยังคงกำอาวุธไว้แน่น บางศพยังคงยืนตัวตรง มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยความประหลาดใจว่าสิ่งใดหนอที่ปลิดชีพพวกเขา

ไคร่าหยุดข้างซากศพซากหนึ่ง พิเคราะห์ด้วยความประหลาดใจ เธอเอื้อมมือไปสัมผัสไล่ไปที่กระดูกซี่โครง ทันใดนั้นเอง โครงกระดูกก็แตกละเอียดหล่นลงไปกองบนพื้น เศษกระดูกกองทับรองเท้าบูทของเธอ ดาบหล่นลงพื้นอย่างไร้พิษสงในขณะที่เธอมองด้วยความฉงนอยู่นั้น

ไคร่าได้ยินเสียงแหลมกรีดร้องอยู่เหนือศีรษะจึงแหงนคอขึ้นไปมองเป็นธีโอส์ บนเป็นวงกลมอยู่สูงขึ้นไปด้านบน พ่นลมหายใจออกเป็นเปลวเพลิง เหมือนกับยังไม่สมใจ เธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา ความรู้สึกเดือดดาลที่ยังอยู่ในเส้นเลือด เขาต้องการทำลายล้างทั้งแพนดีเซีย – จริง ๆ แล้ว ทำลายล้างโลกทั้งใบต่างหาก – หากเขาสามารถทำได้ นับเป็นความเดือดดาลที่มีมาแต่เดิม เป็นความเดือดดาลซึ่งไม่มีขอบเขตจำกัดจริง ๆ

เสียงรองเท้าบูทเหยียบย่ำหิมะกระตุกความคิดของเธอกลับคืนมา ไคร่าเหลียวหลังไปเห็นทหารของพ่อของเธอจำนวนหลายสิบคนกำลังเดินเข้ามา มองความหายนะด้วยความตกตะลึง เหล่าทหารหาญเหล่านี้มีจิตใจอันเข้มแข็ง แต่พวกเขาไม่เคยเห็นภาพในลักษณะนี้มาก่อนเลย แม้แต่พ่อของเธอ ที่เคียงข้างด้วย เอนวิน อาร์ทฟอล และ วิดาร์ ยังมีสีหน้าเคร่งเครียด มันเหมือนเดินผ่านเข้ามาในความฝันเลยทีเดียว

ไคร่าสังเกตว่าเหล่านักรบผู้กล้าเหล่านี้ละสายตาจากการมองไปบนฟ้ามาที่เธอ ด้วยความรู้สึกประหลาดใจในดวงตา เหมือนกับว่าเป็น เธอ ที่เป็นผู้กระทำทั้งหมดนี้ เหมือนกับเธอเป็นมังกรเสียเอง เหมือนว่าเป็นเธอที่สามารถเรียกมังกรมาได้ เธอเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่อาจบอกได้ว่าเหล่าทหารมองว่าเธอเป็นนักรบผู้กล้าหรือเป็นตัวประหลาดกันแน่ บางที่พวกเขาอาจไม่รู้จริง ๆ ก็ได้

ไคร่านึกย้อนกลับไปยังคำภาวนาของเธอที่วินเทอร์ มูน เธอปรารถนาที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอมีความพิเศษจริงหรือไม่ ว่าพลังที่เธอมีเป็นความจริงหรือเปล่า หลังจากวันนี้แล้ว เมื่อสิ้นสุดศึกสงครามในวันนี้แล้ว เธอควรจะหมดความสงสัยได้เสียที เธอเคยตั้งความปรารถนาว่าเจ้ามังกรจะมา และเธอรู้ด้วยตัวเธอเอง จะเพราะเหตุใดเธอไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งที่เธอรู้อย่างแน่นอนแล้วก็คือ เธอมีความแตกต่าง และเธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ หมายความว่าคำทำนายเกี่ยวกับเธอจะเป็นจริงหรือไม่ ว่าฟ้าลิขิตให้เธอเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่หรือเปล่า? เป็นผู้ปกครองผู้ยิ่งใหญ่ใช่ไหม? ยิ่งใหญ่กว่าพ่อของเธอหรือไม่? เธอจะสามารถนำประเทศชาติเข้าสู่สงครามได้หรือไม่? และโชคชะตาของเอสคาลอนอยู่บนบ่าของเธอหรือไม่?

ไคร่ามองไม่ออกเลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงได้ บางที ธีโอส์อาจมาด้วยเหตุผลของตัวเองก็ได้ บางทีความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอเลยแม้แต่น้อยก็ได้ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เอสคาลอนก็ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาไม่ใช่หรือ?

ไคร่ารู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งใด ๆ เลย เท่าที่รู้ขณะนี้ก็คือ ความรู้สึกถึงความร้อนแรงของเพลิงเผาไหม้ของมังกรที่อยู่ในเลือดของเธอ ขณะที่เดินผ่านสมรภูมิ มองเห็นเหล่าศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ของเธอตาย เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ เธอรู้ว่า ขณะนี้เธอไม่ใช้เด็กผู้หญิงอายุ 15 ที่มีความหวังว่าจะได้รับการยอมรับในสายตาของผู้ชายทั้งหลายอีกต่อไป เธอไม่ใช่เพียงของเล่นของท่านลอร์ด โกเวิร์นเนอร์ หรือผู้ชายคนไหน ว่าจะให้ทำตามที่คนเหล่านั้นต้องการอีกต่อไป เธอไม่ใช่สมบัติของผู้ชาย ที่จะทำหน้าที่ของภรรยา ถูกทำร้าย ถูกทำทารุณกรรมอีกต่อไป เธอเป็นตัวของตัวเองแล้ว เป็นนักรบท่ามกลางหมู่ชาย และเป็นผู้หนึ่งที่คนอื่นต้องเกรงกลัว

ไคร่าเดินผ่านทะเลแห่งซากศพจนมาถึงจุดที่กองซากศพสิ้นสุด และพื้นดินเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งและหิมะอีกครั้ง เธอหยุดยืนเคียงข้างพ่อของเธอ มองลงไปยังทิวทัศน์ของหุบเขาที่ทอดยาวอยู่ด้านล่าง ณ ที่แห่งนั้นมีประตูแห่งอาร์โกส์ที่เปิดอยู่ เมืองทั้งเมืองว่างเปล่า เนื่องจากชายหนุ่มทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ในหุบเขา นับเป็นสิ่งที่น่าขนลุกที่ได้เห็นป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ที่ว่างเปล่า ไร้การป้องกันอย่างนี้ ป้อมปราการอันยิ่งใหญ่แห่งแพนดีเซียที่ในเวลานี้เปิดกว้าง รอให้ผู้ใดก็ได้ผ่านเข้าไป กำแพงสูงทะมึนที่สร้างจากก้อนหินหนา เหล่าทหารนับพันที่เคยวางกำลังปกป้องเป็นชั้น ๆ สร้างความประหวั่นให้ผู้ใดก็ตามที่ต้องการต่อกร ด้วยที่ตั้งที่ทำให้แพนดีเซียเป็นเหมือนมือเหล็กของดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของเอสคาลอน

พวกเขาเริ่มเดินลงมาตามทางลาดและเข้าสู่ถนนอันคดเคี้ยวที่นำไปสู่ประตูเมือง นับเป็นการเดินแห่งชัยชนะแต่ทว่าเคร่งขรึม ตามถนนยังมีศพอยู่ประปราย น่าจะเป็นกลุ่มที่มังกรมาพบและจัดการก่อนที่จะถึงท้องทุ่งแห่งการทำลายล้าง ช่างเหมือนเป็นการเดินผ่านหลุมฝังศพเสียจริง

ขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าประตูอันน่าเกรงขาม ไคร่าหยุดตรงธรณีประตู และต้องตะลึงเนื่องจากเมื่อเธอมองผ่านประตูเข้าไป เธอเห็นซากศพอีกนับพันซากที่ไหม้เกรียมควันฟุ้งอยู่ นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับองครักษ์ของท่านลอร์ด กลุ่มที่อยู่รั้งท้าย ธีโอไม่ปล่อยให้ใครเหลือรอดเลยแม้สักคนเดียว ความโกรธแค้นของเขาเป็นที่ประจักษ์ แม้แต่บนผนังกำแพง ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ก่อเป็นกำแพงก็กลายเป็นสีดำด้วยเปลวเพลิง

ขณะที่เดินเข้า อาร์โกส์ ณ เวลานี้เป็นที่ประจักษ์ในความเงียบสงัด ลานด้านหน้าว่างเปล่า มันดูไม่ตลกเลยที่มาเห็นเมืองที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตใด ๆ เช่นนี้ เหมือนพระเจ้าได้ดูดกลืนทุกชีวิตขึ้นไปด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียว

ในขณะที่เหล่าทหารของพ่อเธอเร่งรุดไปด้านหน้า เสียงแห่งความตื่นเต้นดังทั่วไปในอากาศ และในไม่ช้าไคร่าก็รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอสามารถมองเห็นว่าบนพื้นดินเต็มไปด้วยขุมทรัพย์แห่งอาวุธที่ไม่เคยมีใครเคยได้เห็นมาก่อนกองอยู่เกลื่อนกลาด กระจายอยู่ทั่วทั้งสนาม อาวุธชั้นเลิศ โลหะที่ดีที่สุด เกราะชั้นยอดที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ส่องแสงเป็นประกายด้วยสัญลักษณ์ของแพนดีเซีย นอกจากนี้ ยังมีถุงทองกระจายอยู่ทั่วไปท่ามกลางกองอาวุธเหล่านี้ด้วย

ดียิ่งไปกว่านั้น ขอบสนามเป็นที่ตั้งของคลังอาวุธที่สร้างจากหิน มีประตูที่เปิดกว้างทำให้เห็นห้องที่สร้างจากหินหลายห้อง ภายในมีกองทัพม้าชั้นเลิศ ที่ไม่ได้รับอันตรายจากลมหายใจเพลิงของมังกร ม้าจำนวนมากที่จะขนคนทั้งกองทัพได้

ไคร่าเห็นความหวังผุดขึ้นในดวงตาของพ่อของเธอ ภาพที่เธอไม่เคยเห็นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเธอรู้ด้วยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เอสคาลอนจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง

เสียงแหลมดังขึ้นอีกครั้ง และไคร่ามองขึ้นไปก็พบธีโอส์บินวนต่ำลงมา ขยายกรงเล็บออก กระพือปีกอันยิ่งใหญ่ในขณะที่บินเหนือเมือง เป็นการแสดงชัยชนะ ดวงตาสีเหลืองสุกปลั่งจ้องมองมาที่เธอ แม้จะอยู่ไกลออกไป แต่เธอก็ไม่สามารถหันไปทางอื่นได้

ธีโอส์กดหัวลงต่ำลงมาและลงแตะพื้นที่ด้านนอกประตูเมือง เขานั่งอย่างภาคภูมิใจ หันหน้ามาทางเธอ เหมือนกับจะเรียกตัวเธอเข้าไปหา และเธอก็รู้สึกว่าเขากำลังเรียกเธออยู่

ไคร่ารู้สึกเหมือนผิวหนังถูกแทง หัวใจเต้นรัวอยู่ภายใน เมื่อเธอรู้สึกถึงการเชื่อมต่อระหว่างเธอกับสิ่งมีชีวิตตัวนี้รุนแรงขึ้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินเข้าไปหาเขา

ในขณะที่ไคร่าหันหลังกลับและเดินข้ามสนามมุ่งหน้าไปยังประตูเมือง เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของผู้ชายทั้งหลายที่จ้องมองเธอ ทั้งหมดหยุดเพื่อจ้องมองเธอและมังกร เธอเดินไปที่ประตูเมืองเพียงลำพัง รองเท้าบูทเหยียบหิมะ ในขณะที่เธอเดินไปด้วยใจระทึก

เมื่อเธอกำลังจะเดินไปนั้น ไคร่ารู้สึกได้ถึงมืออันอ่อนโยนจับที่แขนของเธอ หยุดรั้งเธอไว้ เมื่อหันกลับไปมองเห็นเป็นพ่อของเธอมีสีหน้าห่วงใยมองมาที่เธอ

“ระวังตัวด้วย” เขาเตือน

ไคร่าเดินต่อ ไม่รู้สึกกลัวใด ๆ แม้เจ้ามังกรจะมีดวงตาที่ดุร้าย เธอมีเพียงความรู้สึกเชื่อมโยงที่ชัดเจนรุนแรง เหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของเธอที่ผุดขึ้นมา และเป็นส่วนที่เธอจะขาดไม่ได้ หัวของเธอหมุนคว้างด้วยความอยากรู้อยากเห็น ธีโอส์มาจากไหนกันนะ? เหตุใดเขาจึงมาที่เอสคาลอน? แล้วทำไมเขาจึงไม่มาเร็วกว่านี้?

ขณะที่ไคร่าเดินผ่านประตูเมืองอาร์โกส์และเข้าใกล้มังกร เสียงของเขาดังขึ้น เป็นเสียงที่ดังระหว่างเสียงลมหายใจและเสียงคำราม ขณะที่เขารอให้เธอเดินเข้าไปหา ปีกทั้งสองของเขากระพืออย่างนุ่มนวล เขาอ้าปากเหมือนจะพ่นไฟออกมา เผยให้เห็นฟันซี่ใหญ่ แต่ละซี่มีความยาวเท่า ๆ กับตัวเธอ และคมกริบเหมือนดาบ ในชั่วขณะ เธอรู้สึกตื่นกลัว ดวงตาของเขาจ้องนิ่งมายังเธอด้วยความจริงจังจนทำให้ยากที่จะคิด

ในที่สุด ไคร่าหยุดเดินตรงตำแหน่งที่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ฟุต เธอมองดูเขาด้วยความเกรงขาม ธีโอส์ดูยิ่งใหญ่ เขาสูงสามสิบฟุต เกล็ดของเขาหนาแข็งและดูเก่าแก่ พื้นสะเทือนขณะที่เขาหายใจ หน้าอกของเขาสั่นไหว และเธอรู้สึกว่าชีวิตเธอขึ้นอยู่กับความเมตตาของเขาแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งสองยืนอยู่ในความเงียบ หันหน้าเข้าหากัน พิเคราะห์ซึ่งกันและกัน หัวใจของไคร่าเต้นระรัวในหน้าอก ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นในอากาศจนเธอรู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออก

ลำคอของเธอแห้งผาก ในที่สุด เธอยอมที่จะรวบรวมความกล้าเอ่ยปากออกมาก่อน

“ท่านเป็นใคร?” เธอถาม เสียงเธอแผ่วเบาจนคล้ายเสียงกระซิบ “เหตุใดจึงมาหาฉัน? ท่านต้องการอะไรจากฉันหรือ?”

ธีโอส์น้อมหัวลงต่ำ ส่งเสียงคำราม และโน้มตัวมาข้างหน้า ใกล้จนจมูกอันใหญ่โตของเขาเกือบสัมผัสหน้าอกของเธอ ดวงตาอันใหญ่โตทั้งสองของเขาเป็นสีเหลืองสุกใส เหมือนกับจะจ้องมองที่เธอ เธอเหลือบมองไปที่ดวงตาคู่นั้น ที่แต่ละดวงใหญ่เท่า ๆ กับตัวเธอ และรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในอีกโลก อีกเวลาหนึ่ง

ไคร่ารอคอยคำตอบ เธอรอคอยให้ความคิดของเธอได้รับการเติมเต็มด้วยความคิดของเขา เหมือนที่เคยเป็นมาก่อน

แต่เธอได้แต่รอกับรอ และต้องตกใจที่รู้สึกว่าจิตใจของเธอช่างว่างเปล่า ไม่มีอะไรสื่อสารมาหาเธอเลย ธีโอส์เงียบไปแล้วหรือ? เธอสูญเสียการเชื่อมต่อกับเขาแล้วอย่างนั้นหรือ?

ไคร่าเหลือบมองกลับด้วยความประหลาดใจ มังกรในเวลานี้มีความเร้นลับมากยิ่งกว่าที่เคย ทันใดนั้นเอง เขาลดหลังลงต่ำเหมือนกับจะให้เธอขึ้นขี่ หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น ในขณะที่เธอจินตนาการภาพเธอขี่หลังมังกรบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ไคร่าค่อย ๆ เดินไปด้านข้างตัวเขา เอื้อมตัวไปจับที่เกล็ดที่ทั้งแข็งและหยาบ กำลังเตรียมที่จะจับที่ลำคอและปีนขึ้น

แต่ทันใดนั้นเอง เมื่อเธอสัมผัสตัว มังกรบิดตัวหนีออกไป ทำให้เธอหลุดมือและเสียหลัก ในขณะที่เขากระพือปีกเพียงครั้งเดียวอย่างรวดเร็ว ลอยตัวขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วจนฝ่ามือของเธอถูกับเกล็ดของเขา เหมือนถูกับกระดาษทราย

ไคร่ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ งุนงง และยิ่งไปกว่านั้น หัวใจสลาย เธอดูหมดหวังในขณะที่เจ้าสิ่งมีชีวิตยกตัวสูงขึ้นในอากาศ ร้องเสียงแหลม และบินสูงขึ้นไปอีก และทันทีที่ถึงกลุ่มเมฆ ธีโอส์บินหลายเข้าไปในกลุ่มเมฆ ไม่เหลืออะไรอีก นอกจากความเงียบที่เข้ามาแทนที่ตัวเขา

ไคร่ายังยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าที่เคย และในขณะที่เสียงร้องสุดท้ายของเขากำลังจางหายไปนั้น เธอรู้สึกเพียงว่า ครั้งนี้ ธีโอส์จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ

กำเนิดความกล้าหาญ

Подняться наверх