Читать книгу เสียงร้องแห่งเกียรติยศ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 12

บทที่ สอง

Оглавление

เจ้าหญิงเกว็นโดลีนทรงวิ่งไปตามตรอกคดเคี้ยวในย่านเสื่อมโทรมของเมือง น้ำพระเนตรไหลนองพระปรางทั้งสองข้าง ขณะที่ทรงวิ่งออกไปจากปราสาท พยายามไปให้ไกลจากราชากาเร็ธให้มากที่สุดเท่าที่จะทรงทำได้ พระหทัยยังคงเต้นแรงจากการเผขิญหน้ากัน นับตั้งแต่ทรงเห็นเฟิร์ธถูกแขวนคอ นับตั้งแต่ได้ยินคำขู่ของกาเร็ธ พระนางทรงพยายามอย่างยิ่งที่จะแยกแยะความจริงจากคำโกหกของกาเร็ธ แต่สำหรับคนที่มีจิตวิปริตเช่นกาเร็ธแล้ว ความจริงและคำโกหกนั้นพันพัวอยู่ด้วยกัน ยากที่แยกออกว่าสิ่งไหนคือความจริง เขาพยายามที่จะทำให้เจ้าหญิงทรงหวาดกลัวใช่หรือไม่? หรือว่าทุกสิ่งที่เขาบอกเป็นความจริง?

เจ้าหญิงเกว็นโดลีนทรงเห็นร่างของเฟิร์ธที่ถูกแขวนอยู่ด้วยพระองค์เอง ซึ่งนั่นบอกพระนางว่าครั้งนี้เรื่องทั้งหมดนี่อาจจะเป็นความจริง บางทีก็อดฟรีย์อาจจะถูกวางยาพิษจริง ๆ พระนางอาจจะถูกส่งไปแต่งงานกับพวกคนเถื่อนเนวารันจริง และธอร์อาจจะกำลังขี่ม้าไปถูกซุ่มโจมตีอยู่ในตอนนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้เจ้าหญิงตัวสั่น

พระนางทรงรู้สึกอับจนหนทาง เจ้าหญิงจะต้องแก้ไขให้มันถูกต้อง พระนางไม่อาจวิ่งไปหาธอร์ได้ แต่ทรงสามารถไปวิ่งไปหาก็อดฟรีย์ เพื่อดูว่าเขาถูกวางยาพิษจริงหรือไม่ และเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

เจ้าหญิงเกว็นโดลีนทรงวิ่งเร็วลึกเข้าไปในย่านเสื่อมโทรมของเมือง ทรงประหลาดพระทัยที่ต้องกลับมาที่นี่อีก สองครั้งแล้วในรอบหลายวัน ในย่านที่น่าขยะแขยงของราชสำนัก ซึ่งพระนางปฏิญาณว่าจะไม่กลับมาอีก หากก็อดฟรีย์ถูกวางยาพิษจริง เจ้าหญิงทรงรู้ว่ามันจะต้องเกิดที่ร้านเหล้า จะเป็นที่ไหนได้อีก? พระนางทรงกริ้วที่เขากลับมาที่นี่อีก ไม่ระวังตัวและประมาท แต่เหนืออื่นใดแล้ว เจ้าหญิงทรงหวาดกลัวแทนเชษฐา พระนางทรงรู้ว่าเป็นห่วงเชษฐามากเพียงใดในช่วงไม่กี่วันมานี้ และเมื่อคิดว่าหากต้องสูญเสียเขาไปอีกคน โดยเฉพาะหลังจากที่พระนางเพิ่งสูญเสียพระบิดาไป ทำให้ทรงรู้สึกใจหาย เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกว่าพระนางมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

เจ้าหญิงเกว็นโดลีนทรงหวาดกลัวอย่างแท้จริงขณะที่ทรงวิ่งไปตามตรอกเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะพวกขี้เมาหรือพวกอันธพาลรอบ ๆ พระวรกาย แต่เป็นความกลัวที่มีต่อราชากาเร็ธ พระเชษฐามากกว่า ตอนที่พบกันเขาดูหมกมุ่น พระนางไม่อาจลบภาพใบหน้าและดวงตาของเขาออกไปจากใจได้ มันดำคล้ำและไร้วิญญาณ เขาดูเหมือนถูกครอบงำ และการที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระบิดายิ่งทำให้ดูเหมือนไม่ใช่ความจริง เจ้าหญิงทรงกลัวความอาฆาตของกาเร็ธ เขาอาจจะวางแผนส่งพระนางไปแต่งงานจริงก็เป็นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะไม่ทรงยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน หรือเขาอาจจะต้องการให้พระนางไม่ทันระวังพระองค์ และกำลังวางแผนที่จะสังหารพระนางจริง ๆ เจ้าหญิงเกว็นทอดพระเนตรสองข้างทางระหว่างที่ทรงวิ่งไป ใบหน้าที่ทรงเห็นดูไม่เป็นมิตรและแปลกตา ทุกคนดูเป็นภัยที่กาเร็ธส่งมาจัดการพระนาง เจ้าหญิงทรงหวาดระแวงไปหมด

เจ้าหญิงเกว็นทรงเลี้ยวที่หัวมุมและชนเข้ากับขี้เมาเฒ่าคนหนึ่งจนเซถลาไป พระนางทรงตกพระทัยและเผลอร้องออกมา เจ้าหญิงทรงหวาดระแวง เป็นครู่กว่าจะทรงรู้ตัวว่าเป็นแค่คนเดินผ่านมาที่เลินเล่อ ไม่ใช่สมุนของกาเร็ธ เจ้าหญิงเกว็นทรงหันไปมอง เห็นเขาเดินโซเซจากไป ไม่หันกลับมาขอโทษด้วยซ้ำ ความน่าอดสูในย่านนี้ของเมืองนั้นเกินกว่าที่จะทรงทนรับได้ หากไม่ใช่เพื่อก็อดฟรีย์แล้ว พระนางจะไม่มีวันเฉียดมาใกล้แถวนี้อีก เจ้าหญิงทรงเกลียดเชษฐาที่ทำให้ต้องทรงลดตัวมาที่นี่ ทำไมเขาจึงอยู่ห่างจากร้านเหล้าไม่ได้นะ?

เจ้าหญิงเกว็นทรงเลี้ยวที่อีกมุมหนึ่งและตรงนั้นเอง คือร้านเหล้าของก็อดฟรีย์ ร้านที่แทบจะเรียกว่าอาคารไม่ได้ โกโรโกโส ประตูเปิดอ้าอยู่ มีขี้เมาเดินออกมาเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด เจ้าหญิงไม่ทรงเสียเวลา รีบเสด็จผ่านเข้าประตูที่เปิดอ้าอยู่เข้าไป

เมื่อเข้าไปภายในพระนางทรงรออยู่ครู่หนึ่งให้พระเนตรปรับแสงในความสลัวภายในร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเอล และกลิ่นตัวคน ทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบ ชายกว่ายี่สิบคนที่แออัดกันอยู่ในนี้ต่างหันมามองที่พระนางด้วยความประหลาดใจ ที่เห็นราชนิกูลในทรงฉลองพระองค์งดงาม บุกเข้ามาในร้านที่น่าจะไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายปีแล้ว

เจ้าหญิงทรงเดินเข้าไปหาชายร่างสูง พุงใหญ่คนหนึ่ง ที่ทรงจำได้ว่าคือ อคอร์ธ สหายร่วมดื่มคนหนึ่งของก็อดฟรีย์

“พี่ชายข้าอยู่ที่ไหน?” เจ้าหญิงตรัสถาม

เจ้าหญิงทรงประหลาดพระทัยที่อคอร์ธซึ่งปกติแล้วเป็นคนรื่นเริง มักจะมีเรื่องตลกบ้าน ๆ ที่ขำเองคนเดียว เขาเพียงแค่ผงกศีรษะ

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฝ่าบาท” เขาทูลอย่างเคร่งขรึม

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เจ้าหญิงทรงย้ำ พระหทัยเต้นแรง

“เจ้าชายเสวยเหล้าปนเปื้อนเข้าไป” ชายร่างสูง ผอม ที่ทรงจำได้ว่าชื่อฟุลตัน สหายอีกคนของก็อดฟรีย์ ทูลตอบ “ทรงเข้าบรรทมดึกเมื่อคืนนี้ และยังไม่ลุกขึ้นอีกเลย”

“เขายังมีชีวิตอยู่ไหม?” เจ้าหญิงตรัสถามอย่างตระหนก แล้วทรงคว้าข้อมืออคอร์ธไว้

“ร่อแร่เต็มที่” เขาทูลตอบพลางก้มหน้า “เจ้าชายอาการไม่ดีนัก ทรงไม่ตรัสอะไรมาสักชั่วโมงแล้ว”

“เขาอยู่ที่ไหน?” เจ้าหญิงเกว็นทรงยืนกราน

“อยู่ที่ด้านหลัง แม่หญิง” คนขายเหล้าทูล พลางเอนตัวข้ามโต๊ะมาปัดเหยือกเหล้า เขาเองก็ดูเคร่งขรึม “และท่านน่าจะเตรียมแผนจัดการกับเขาด้วย ข้าจะไม่ยอมมีศพอยู่ในร้านของข้า”

เจ้าหญิงเกว็นทรงเหลืออด ประหลาดพระทัยที่พระองค์ทรงชักมีดสั้นเล่มเล็กออกมา จ่อเข้าที่ลำคอของคนขายเหล้า

เขากลืนน้ำลาย ดูตกตะลึง ขณะที่ทั้งห้องเงียบสนิท

“ก่อนอื่น” เจ้าหญิงตรัส “ที่นี่ไม่เรียกว่าร้านหรอก มันเป็นข้ออ้างที่ใช้เรียกบ่อน้ำ และข้าจะให้ทหารองครักษ์พังที่นี่ให้ราบ ถ้าเจ้าพูดกับข้าแบบนั้นอีก เจ้าน่าจะเริ่มต้นด้วยการเรียกข้าว่า ฝ่าบาท”

เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ทรงประหลาดพระทัยที่ทรงเข้มแข็ง พระนางไม่ทรงรู้เลยว่ามันมาจากไหน

ชายขายเหล้ากลืนน้ำลาย

“ฝ่าบาท” เขาทูลตาม

เจ้าหญิงเกว็นทรงถือมีดสั้นไว้มั่น

“เรื่องที่สอง พี่ชายข้าจะไม่ตาย ไม่ใช่ที่นี่ ศพของเขาเป็นเกียรติแก่ร้านของเจ้ามากกว่าคนเป็นที่ผ่านเข้าออกที่นี่เสียอีก และถ้าเขาตาย เจ้ามั่นใจได้เลยว่าเจ้าต้องรับผิดชอบด้วย”

“แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ฝ่าบาท!” เขาโอดโอย “มันก็เหล้าแบบเดียวกับที่ข้ารินให้คนอื่น ๆ!”

“ต้องมีคนวางยาพิษในเหล้า” อคอร์ธกล่าวเสริม

“อาจจะเป็นใครก็ได้” ฟุลตันบอก

เจ้าหญิงเกว็นลดมีดสั้นลงช้า ๆ

“พาข้าไปหาเขา เดี๋ยวนี้!” เจ้าหญิงตรัสสั่ง

ตอนนี้เจ้าของร้านก้มศีรษะอย่างนอบน้อม และรีบเดินออกประตูด้านข้างที่อยู่ด้านหลังโต๊ะขายเหล้า เจ้าหญิงเกว็นเสด็จตามเขาไปติด ๆ โดยมีอคอร์ธและฟุลตันตามมาด้วย

เจ้าหญิงเกว็นทรงเข้าไปในห้องเล็กด้านหลังร้าน และได้ยินเสียงพระนางเองที่เปล่งออกมาเมื่อได้เห็นเชษฐา เจ้าชายก็อดฟรีย์นอนหงายอยู่บนพื้น พระองค์ดูซีดเผือดกว่าที่ทรงเคยเห็น ก็อดฟรีย์อยู่ห่างความตายเพียงก้าวเดียว เรื่องทั้งหมดเป็นความจริง

เจ้าหญิงเกว็นรีบเสด็จไปข้างพี่ชาย ทรงคว้าพระหัตถ์ไว้และรู้สึกถึงความเย็นเฉียบ เขาไม่ตอบสนอง นอนนิ่งอยู่กับพื้น ไม่ได้โกนหนวดเครา ผมเผ้าเหนียวปรกหน้าผาก แต่เจ้าหญิงยังทรงรู้สึกถึงชีพจรของเขา แม้จะแผ่วแต่ก็ยังเต้นอยู่ พระนางทรงเห็นอุระขยับทุกจังหวะการหายใจ เขายังมีชีวิตอยู่

พระนางทรงกริ้วขึ้นมาทันที

“เจ้าทิ้งเขาไว้อย่างนี้ได้อย่างไร?” เจ้าหญิงทรงตะโกน พลางหันไปหาเจ้าของร้าน “พี่ชายข้า เป็นราชนิกูล ถูกทิ้งให้นอนอยู่บนพื้นราวกับสุนัขรอความตายอย่างนั้นหรือ?”

เจ้าของร้านเหล้ากลืนน้ำลาย ดูเป็นกังวล

“ข้าจะทำอะไรได้อีก ฝ่าบาท?” เขาทูลถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ที่นี่ไม่ใช่โรงหมอ ทุกคนบอกว่าเจ้าชายสิ้นพระชนม์แน่ และ....”

“เขายังไม่ตาย!” เจ้าหญิงทรงตะโกน “แล้วเจ้าสองคน” ทรงหันไปหาอคอร์ธและฟุลตัน “พวกเจ้าเป็นเพื่อนแบบไหนกัน? เขาเคยทิ้งพวกเจ้าแบบนี้ไหม?”

อคอร์ธและฟุลตันมองหน้ากันเงียบ ๆ

“อภัยให้ข้าด้วย” อคอร์ธทูล “หมอมาดูเมื่อคืนนี้และบอกว่าเจ้าชายกำลังจะสิ้นพระชนม์ และทำได้แค่รอเวลาให้ความตายมาถึงเท่านั้น ข้าไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้อีก”

“เราอยู่กับพระองค์ตลอดคืน ฝ่าบาท” ฟุลตันทูลเสริม “อยู่ข้างพระองค์ เราเพิ่งออกไปพักและดื่มเพื่อให้ลืมความเศร้า ตอนที่ท่านเสด็จมาถึง และ...”

เจ้าหญิงเกว็นทรงยื่นพระหัตถ์ไปปัดเหยือกเหล้าในมือของทั้งสองคนด้วยความกริ้ว เหยือกกระเด็นไปบนพื้น เหล้ากระจายไปทั่ว ทั้งสองคนเงยหน้ามองพระนางด้วยความตกใจ

“เจ้าสองคน ช่วยกันยกเขาคนละด้าน” พระนางตรัสสั่งอย่างเย็นชา ทรงรู้สึกถึงพละกำลังที่พลุ่งพล่านขึ้นใหม่ในพระวรกาย “พวกเจ้าจะพาเขาไปจากที่นี่ เดินตามข้าไปในราชสำนัก จนถึงหมอหลวง พี่ชายข้าจะต้องได้รับการรักษาที่แท้จริง และจะไม่ถูกทิ้งให้ตายเพราะคำบอกของหมอโง่เง่า”

“ส่วนเจ้า” เจ้าหญิงทรงหันไปหาเจ้าของร้านเหล้า “หากพี่ชายข้ารอด และถ้าเขากลับมาที่นี่อีก แล้วเจ้ายอมรินเหล้าให้เขาดื่มอีก ข้าจะถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะโยนเจ้าเข้าคุกใต้ดินไม่ได้ออกมาอีก”

เจ้าของร้านขยับตัวและก้มศีรษะ

“เอาล่ะ ไปได้แล้ว!” เจ้าหญิงทรงตะโกน

อคอร์ธและฟุลตันสะดุ้ง แล้วกระโดดขึ้นทำตาม เจ้าหญิงเกว็นรีบเสด็จออกจากห้อง โดยมีชายทั้งสองแบกเชษฐาของพระนางตามหลังมา ออกจากร้านเหล้าไปสู่แสงตะวัน

ทั้งหมดรีบเดินไปตามตรอกแออัดเพื่อมุ่งหน้าไปหาหมอหลวง เจ้าหญิงเกว็นได้แต่ภาวนาว่ามันจะไม่สายเกินไป

เสียงร้องแห่งเกียรติยศ

Подняться наверх