Читать книгу เสียงร้องแห่งเกียรติยศ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 20

บทที่ สิบ

Оглавление

แสงอรุณส่องผ่านหน้าต่างเล็ก ๆ ในกระท่อมของอิลเลพรา แยงพระเนตรของเจ้าหญิงเกว็นโดลีนและปลุกพระนางให้ตื่นจากบรรทมช้า ๆ อาทิตย์ดวงแรกส่องแสงสีส้มเรื่อเรือง ไล้แสงปลุกเจ้าหญิงให้ตื่นขึ้นในรุ่งอรุณอันเงียบสงบ พระนางกระพริบพระเนตรหลายครั้ง ในตอนแรกยังทรงงุนงงและสงสัยว่าพระนางอยู่ที่ไหน จากนั้นจึงทรงระลึกได้

ก็อดฟรีย์

เจ้าหญิงเกว็นผล็อยหลับไปบนพื้นกระท่อม บนฟางที่ปูลาดเป็นที่นอนอยู่ข้างเตียงของเจ้าชายก็อดฟรีย์ อิลเลพรานอนอยู่ข้างเจ้าชาย เป็นค่ำคืนที่ยาวนานสำหรับทั้งสาม เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงเพ้ออยู่ตลอดคืน กระสับกระส่ายพลิกไปมา อิลเลพราคอยดูแลอยู่ตลอด เจ้าหญิงเกว็นทรงอยู่คอยช่วยทุกอย่างที่ทรงช่วยได้ ทรงหยิบผ้าชุบน้ำ บิดและวางบนพระนลาฏให้เจ้าชายก็อดฟรีย์ คอยหยิบสมุนไพรและยาส่งให้อิลเลพราตามที่นางร้องขอ เป็นค่ำคืนที่เหมือนจะไม่มีสิ้นสุด มีหลายครั้งที่เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงตะโกนออกมา และพระนางทรงมั่นพระทัยว่าเชษฐากำลังจะสิ้นพระชนม์ หลายครั้งที่เจ้าชายทรงเพ้อเรียกหาพระบิดา ซึ่งทำให้เจ้าหญิงเกว็นทรงตัวเย็น พระนางทรงรู้สึกว่าพระบิดาอยู่ด้วย ทรงวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เจ้าหญิงทรงไม่รู้เลยว่าพระบิดาปรารถนาให้โอรสมีชีวิตอยู่หรือตาย ความสัมพันธ์ของทั้งสองมักจะตึงเครียดอยู่เสมอ

เจ้าหญิงเกว็นบรรทมที่กระท่อมนี้เพราะพระนางเองก็ไม่มีที่อื่นที่จะไป เจ้าหญิงทรงรู้สึกไม่ปลอดภัยหากจะกลับไปที่ปราสาท ไปอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเชษฐา พระนางทรงรู้สึกปลอดภัยกว่าที่นี่ ในความดูแลของอิลเลพรา โดยมีอคอร์ธและฟุลตันคอยยืนเฝ้ายามให้ด้านนอก เจ้าหญิงทรงคิดว่าไม่มีใครรู้ว่าพระนางอยู่ที่นี่และทรงต้องการให้เป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ในระยะหลังทรงสนิทสนมรักใคร่เจ้าชายก็อดฟรีย์ ทรงค้นพบเชษฐาในแบบที่พระนางไม่เคยรู้จัก และทรงเจ็บปวดเมื่อคิดว่าเขากำลังจะสิ้นพระชนม์

เจ้าหญิงเกว็นทรงลุกขึ้นยืนแล้วรีบไปหาเจ้าชายก็อดฟรีย์ พระหทัยเต้นแรงพลางสงสัยว่าเชษฐาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าหญิงทรงรู้สึกได้ว่าหากเจ้าชายตื่นขึ้นในเช้านี้ หมายความว่าทรงรอด แต่หากไม่ฟื้น ทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว อิลเลพราลุกขึ้นและรีบมาดูเช่นกัน นางคงจะเผลอหลับตอนไหนสักเวลาเมื่อคืนนี้ เจ้าหญิงเกว็นไม่โทษนางเลย

ทั้งสองคุกเข่าอยู่เช่นนั้นข้างพระวรกายเจ้าชายก็อดฟรีย์ ท่ามกลางแสงสว่างในกระท่อมเล็ก ๆ เจ้าหญิงเกว็นทรงแตะข้อพระกรของเชษฐาแล้วเขย่า ขณะที่อิลเลพราวางมือลงบนพระนลาฏ นางหลับตาและสูดหายใจ ทันใดนั้นเจ้าชายก็อดฟรีย์ก็ลืมพระเนตรขึ้น อิลเลพรายกมือขึ้นด้วยความประหลาดใจ

เจ้าหญิงเกว็นเองก็ทรงประหลาดพระทัย พระนางไม่คาดว่าจะทรงเห็นเจ้าชายก็อดฟรีย์ลืมพระเนตรขึ้น เชษฐาทรงหันมาและทอดพระเนตรทองเจ้าหญิง

“ก็อดฟรีย์?” เจ้าหญิงตรัสถาม

เจ้าชายหรี่พระเนตรลง แล้วลืมขึ้นอีกครั้ง แล้วทรงยันพระวรกายขึ้นด้วยศอกข้างหนึ่ง มองมาที่ทั้งสอง

“กี่โมงแล้ว?” เจ้าชายตรัสถาม “ข้าอยู่ที่ไหน?”

พระสุรเสียงฟังดูตื่นตัวและแข็งแรงดี เจ้าหญิงเกว็นไม่เคยรู้สึกโล่งพระทัยเช่นนี้มาก่อน พระนางทรงแย้มสรวลกว้าง พร้อมกับอิลเลพรา

เจ้าหญิงเกว็นทรงโผเข้าหาและกอดเชษฐาไว้แน่น ก่อนจะผละออก

“พี่ยังไม่ตาย!” พระนางทรงร้องออกมา

“แน่นอนสิ” เจ้าชายตรัส “ทำไมข้าถึงจะตายเล่า? นี่ใครกัน?” เจ้าชายตรัสถาม ทรงหันไปหาอิลเลพรา

“นางเป็นคนช่วยชีวิตพี่ไว้” เจ้าหญิงเกว็นตรัสตอบ

“ช่วยชีวิตข้าหรือ?”

อิลเลพราก้มหน้ามองพื้น

“ข้าช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” นางทูลตอบอย่างถ่อมตัว

“เกิดอะไรขึ้นกับข้า?” เจ้าชายตรัสถามเจ้าหญิงเกว็นด้วยความตกพระทัย “สิ่งสุดท้ายที่ข้าจำได้คือข้ากำลังดื่มอยู่ในร้านเหล้า และจากนั้น...”

“ท่านถูกวางยาพิษ” อิลเลพราทูล “เป็นยาพิษที่หายากและฤทธิ์แรงมาก ข้าไม่ได้พบมาหลายปีแล้ว ทรงโชคดีมากที่รอดมาได้ ที่จริงแล้วท่านทรงเป็นคนเดียวที่ข้าเคยเห็นว่ารอดจากยาพิษนี้ได้ คงมีใครคอยคุ้มครองท่านอยู่”

เมื่อได้ยินคำพูดของนาง เจ้าหญิงเกว็นทรงคิดว่านางพูดถูกและทรงคิดถึงพระบิดาในทันที แสงอาทิตย์ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาแรงกล้ามากขึ้น เจ้าหญิงทรงรู้สึกว่าพระบิดาอยู่ที่นี่ด้วย พระองค์ทรงต้องการให้ก็อดฟรีย์มีชีวิตอยู่

“สมน้ำหน้าพี่แล้ว” เจ้าหญิงเกว็นตรัสพลางแย้มสรวล “พี่สัญญาว่าจะเลิกดื่มเหล้าเอล ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”

เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงหันมาแย้มสรวลกับขนิษฐา เจ้าหญิงทรงเห็นสีสันแห่งชีวิตบนพระปรางของเชษฐาและรู้สึกโล่งอก ก็อดฟรีย์กลับมาแล้ว

“เจ้าช่วยชีวิตข้า” เจ้าชายตรัสอย่างจริงจัง

เจ้าชายทรงหันไปหาอิลเลพรา

“เจ้าทั้งสองคนช่วยชีวิตข้า” พระองค์ตรัสต่อ “ข้าไม่รู้จะตอบแทนพวกเจ้าได้อย่างไร”

ขณะที่เจ้าชายทรงมองอิลเลพรา เจ้าหญิงเกว็นทรงสังเกตเห็นบางอย่าง มีบางอย่างในสายพระเนตร บางอย่างที่มากกว่าความขอบคุณ พระนางทรงหันไปหาอิลเลพรา และเห็นว่านางหน้าแดง ก้มมองพื้น เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้ว่าทั้งสองต่างพอใจกัน

อิลเลพรารีบหันหลังเดินไปอีกฟาก ทำเป็นวุ่นวายอยู่กับตำรับยา

เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงหันมาหาเจ้าหญิงเกว็น

“กาเร็ธเหรอ์” เจ้าชายตรัสถามอย่างเคร่งขรึมขึ้นมา

เจ้าหญิงเกว็นพยักพระพักตร์ตอบ ทรงเข้าใจในสิ่งที่เชษฐาตรัสถาม

“พี่โชคดีที่ไม่ตาย” พระนางตรัส “แต่เฟิร์ธไม่รอด”

“เฟิร์ธหรือ?” เจ้าชายก็อดฟรีย์ตรัสเสียงสูงด้วยความประหลาดพระทัย “ตายแล้วหรือ? ยังไงกัน?”

“เขาถูกแขวนคอจากขื่อ” พระนางตรัส “พี่ควรจะเป็นคนต่อไป”

“แล้วเจ้าล่ะ?” เจ้าชายก็อดฟรีย์ตรัสถาม

เจ้าหญิงเกว็นทรงยักอังสา

“เขาเตรียมจะส่งข้าไปแต่งงาน เขาขายข้าให้พวกเนวารัน ดูเหมือนพวกนั้นกำลังเดินทางมารับตัวข้า”

เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงลุกขึ้นด้วยความกริ้ว

“ข้าไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่!” เจ้าชายทรงประกาศ

“ข้าก็เหมือนกัน” เจ้าหญิงตรัส “ข้าจะต้องหาทางออก”

“แต่ถ้าไม่มีเฟิร์ธ เราก็ไม่มีหลักฐาน” เจ้าชายตรัส “เราไม่มีทางโค่นเขาลงได้ กาเร็ธจะเป็นอิสระ”

“เราจะต้องหาวิธี” พระนางตรัสบอก “เราจะต้องหา...”

ทันใดนั้นประตูกระท่อมก็เปิดออก กระท่อมสว่างไปด้วยแสง อคอร์ธกับฟุลตัสเดินเข้ามา

“เจ้าหญิง...” อคอร์ธทูลขึ้น ก่อนจะหันไปเห็นเจ้าชายก็อดฟรีย์

“ไอ้ลูกหมา!” อคอร์ธตะโกนขึ้นด้วยความยินดีที่เห็นเจ้าชายก็อดฟรีย์ “ข้านึกแล้ว! ท่านโกงได้ทุกอย่างในชีวิต ข้ารู้ว่าท่านจะต้องโกงความตายได้ด้วย!”

“ข้ารู้ว่าเหล้าเหยือกเดียวพาท่านลงหลุมไม่ได้หรอก!” ฟุลตันกล่าวเสริม

อคอร์ธและฟุลตันวิ่งเข้ามาหา ขณะที่เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงลุกจากเตียง แล้วทุกคนต่างสวมกอดกัน

จากนั้นอคอร์ธจึงหันไปหาเจ้าหญิงเกว็นอย่างจริงจัง

“ฝ่าบาท ข้าเสียใจที่ต้องรบกวนท่าน แต่เราเห็นกองทหารตรงขอบฟ้า พวกนั้นกำลังมุ่งหน้ามาหาเรา”

เจ้าหญิงเกว็นทรงมองเขาด้วยความตกพระทัย แล้วรีบวิ่งไปด้านนอก โดยมีทุกคนตามหลังมา เจ้าหญิงทรงก้มพระเศียรและหรี่พระเนตรในแสงอาทิตย์แรงกล้า

ทั้งหมดออกมายืนด้านนอก เจ้าหญิงเกว็นทอดพระเนตรไปทางขอบฟ้าและเห็นทหารกองรบเงินกลุ่มเล็กกำลังขี่ม้ามาทางกระท่อม ทหารหกนายกำลังขี่ม้ามาด้วยความเร็วเต็มที่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขากำลังรีบมาที่นี่

เจ้าชายก็อดฟรีย์ทรงจับดาบ แต่เจ้าหญิงเกว็นทรงแตะพระหัตถ์ลงที่ข้อพระกรให้คลายกังวล

“พวกนี้ไม่ใช่คนของกาเร็ธ พวกเขาเป็นคนของเคนดริค ข้ามั่นใจว่าพวกเขามาอย่างสันติ”

กลุ่มทหารมาถึงและกระโดดลงจากหลังม้าโดยไม่หยุด ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเจ้าหญิงเกว็นโดลีน

“ฝ่าบาท!” หัวหน้าคณะทูลขึ้น “พวกเรานำข่าวดีมาทูล พวกเราสามารถตีโต้กองทัพของแม็คคลาวด์ได้! เจ้าชายเคนดริค เชษฐาของพระองค์ทรงปลอดภัย เจ้าชายสั่งให้ข้ามาแจ้งข่าวแก่ท่านว่า ธอร์ปลอดภัยดี”

เจ้าหญิงเกว็นทรงกรรแสงออกมาทันทีที่ได้รู้ข่าว ทั้งโล่งอกและดีใจ เจ้าหญิงทรงหันไปสวมกอดเจ้าชายก็อดฟรีย์ พระนางทรงรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

“ทุกคนจะกลับมาในวันนี้” พลนำสารทูลต่อ “และจะมีการฉลองใหญ่ที่ราชสำนัก!”

“เป็นข่าวดีจริง ๆ!” เจ้าหญิงเกว็นทรงอุทาน

“ฝ่าบาท” มีเสียงแหบต่ำทูลขึ้น เจ้าหญิงเกว็นทรงหันไปเห็นสร็อก อัศวินผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งแต่งกายด้วยสีแดงเฉพาะของทางตะวันตก เขาเป็นคนที่เจ้าหญิงทรงรู้จักมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เป็นทหารคนสนิทของพระบิดา เขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพระนางและทำให้เจ้าหญิงทรงรู้สึกละอาย

“ได้โปรด ท่าน” เจ้าหญิงตรัส “อย่าคุกเข่าให้ข้าเลย”

เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงและเป็นลอร์ดที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง มีทหารในควบคุมหลายพันนาย และครองเมืองซิเลเซีย ปราการด้านตะวันตก ซึ่งเป็นเมืองพิเศษ สร้างอยู่บนหน้าผา ริมขอบหุบเขาใหญ่ เป็นเมืองที่แทบจะฝ่าเข้าไปไม่ได้เลย เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่พระบิดาทรงไว้วางพระทัย

“ข้าขี่ม้ามาที่นี่พร้อมกับทหารเหล่านี้ เพราะข้าได้ยินว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก” เขาทูลขึ้นอย่างรอบรู้ “บัลลังก์ไม่มั่นคง ผู้ครองบัลลังก์คนใหม่ ผู้ปกครองที่หนักแน่น และเป็นตัวจริง จะต้องขึ้นแทนที่ มีข่าวไปถึงข้าว่าพระบิดาของท่านทรงปรารถนาให้ท่านได้สืบทอดราชบัลลังก์ พระบิดาของท่านเป็นดั่งพี่น้องของข้า พระประสงค์ของพระองค์คือสิ่งที่ข้ายึดมั่น หากนั่นคือพระประสงค์ของพระองค์ ก็จะเป็นความต้องการของข้าด้วย ข้ามาเมื่อทูลให้ทรงทราบว่า หากท่านควรได้ขึ้นปกครอง เช่นนั้นคนของข้าขอสาบานที่จะจงรักภักดีต่อท่าน ข้าขอให้ทรงรีบดำเนินการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าราชสำนักต้องการผู้ปกครองคนใหม่”

เจ้าหญิงเกว็นทรงยืนนิ่งด้วยความตกพระทัย แทบไม่รู้เลยว่าจะทรงตอบอย่างไร พระนางทรงรู้สึกถ่อมตัวอย่างยิ่งและทรงภาคภูมิใจด้วย และเจ้าหญิงยังทรงรู้สึกตื้นตันอย่างยิ่งยวด

“ข้าขอขอบใจท่านมาก” เจ้าหญิงตรัส “ข้าซาบซึ้งกับคำพูดของท่านและข้อเสนอของท่าน ข้าจะไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ตอนนี้ข้าเพียงแต่อยากจะต้อนรับพี่ชายกลับบ้าน รวมทั้งธอร์ด้วย”

สร็อกน้อมรับ ขณะที่มีเสียงแตรดังขึ้นที่ขอบฟ้า เจ้าหญิงเกว็นทรงเงยหน้าขึ้นทอดพระเนตร ทรงเห็นฝุ่นฟุ้งตลบ เมื่อกองทัพหลวงปรากฏขึ้น พระนางทรงยกพระหัตถ์ขึ้นป้องแสงอาทิตย์ แล้วพระหทัยพองฟูขึ้น เจ้าหญิงทรงบอกได้ว่าพวกนั้นเป็นใครแม้จากตรงนี้ นั่นคือกองรบเงินและกองทัพของพระราชา

คนที่ขี่ม้านำมาด้านหน้านั้นคือ ธอร์

เสียงร้องแห่งเกียรติยศ

Подняться наверх