Читать книгу เสียงร้องแห่งเกียรติยศ - Морган Райс, Morgan Rice - Страница 17

บทที่ เจ็ด

Оглавление

เจ้าหญิงเกว็นทรงคุกพระชานุอยู่ข้างเจ้าชายก็อดฟรีย์ในกระท่อมที่ปิดมิดชิด อิลเลพราอยู่ข้างพระนาง เจ้าหญิงไม่อาจทนได้อีกต่อไป พระนางทรงฟังเสียงเชษฐาร้องครวญครางอยู่หลายชั่วโมง ทรงเห็นใบหน้าของอิลเลพราหม่นหมองลงเรื่อย ๆ และดูเหมือนเขาคงจะต้องตายอย่างแน่นอน เจ้าหญิงทรงอับจนหนทาง ทำได้เพียงนั่งอยู่เช่นนั้น พระนางทรงรู้สึกว่าจะต้องทำบางอย่าง ทำอะไรก็ได้

เจ้าหญิงเกว็นไม่เพียงแต่วุ่นวายพระทันด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วงเจ้าชายก็อดฟรีย์เท่านั้น แต่พระนางยังทรงกังวลมากกว่านั้นเมื่อนึกถึงธอร์ เจ้าหญิงไม่อาจสลัดภาพเขากำลังพุ่งเข้าสู่การต่อสู้ เดินไปสู่กับดักที่กาเร็ธวางไว้และกำลังจะตายออกไปจากความคิดได้ พระนางทรงรู้สึกว่าจะต้องช่วยธอร์ด้วยไม่ว่าในทางใด การประทับอยู่เช่นนี้กำลังจะทำให้ทรงเป็นบ้า

เจ้าหญิงเกว็นทรงผุดลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบเดินไป

“ท่านจะไปไหน?” อิลเลพราทูลถามขึ้น น้ำเสียงแหบพร่าจากการสวดภาวนา

เจ้าหญิงทรงหันไปหานาง

“ข้าจะกลับมา” พระนางตรัส “มีบางอย่างที่ข้าต้องลองทำ”

เจ้าหญิงทรงเปิดประตูแล้วรีบเสด็จออกไปสู่บรรยากาศยามสนธยา ทรงกระพริบพระเนตรกับภาพที่เห็น ท้องฟ้าเป็นริ้วสีแดงและม่วง อาทิตย์ดวงที่สองแตะที่ขอบฟ้าเหมือนกับลูกบอลสีเขียว อคอร์ธและฟุลตันยังคงยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกอย่างน่าชื่นชม ทั้งสองคนขยับตัวและมองมาที่เจ้าหญิงด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“เจ้าชายจะทรงรอดไหม?” อคอร์ธทูลถาม

“ข้าก็ไม่รู้” เจ้าหญิงเกว็นตรัส “รออยู่ที่นี่ คอยเฝ้าไว้”

“แล้วเจ้าหญิงจะเสด็จไปไหน?” ฟุลตันทูลถาม

เจ้าหญิงทรงเกิดความคิดขณะที่ทอดพระเนตรท้องฟ้าสีแดงราวกับโลหิต ทรงรู้สึกถึงความขลังของบรรยากาศ มีชายคนหนึ่งที่อาจจะช่วยพระนางได้

อาร์กอน

หากจะมีใครที่เจ้าหญิงจะทรงไว้ใจได้ คนที่รักธอร์และยังคงจงรักภักดีต่อพระบิดา คนที่มีพลังที่จะช่วยพระนางได้นั้น ก็มีเพียงเขา

“ข้าจะต้องไปหาใครบางคนเป็นพิเศษ” เจ้าหญิงตรัส

พระนางรีบเสด็จตัดทุ่งโล่งไป ก่อนจะทรงวิ่งเหยาะ ๆ แล้ววิ่งเต็มที่ไปตามทางที่มุ่งหน้าไปยังกระท่อมของอาร์กอน

พระนางไม่ได้เสด็จมาที่นี่หลายปี นับตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ แต่ทรงจำได้ว่าเขาอาศัยอยู่บนทุ่งโล่งเต็มไปด้วยหิน เจ้าหญิงทรงวิ่งไปเรื่อย ๆ พลางหอบเมื่อภูมิประเทศเริ่มว่างเปล่า ลมแรงขึ้น ทุ่งหญ้าหายไปกลายเป็นก้อนกรวด และเป็นก้อนหิน สายลมกระโชกแรง ขณะที่พระนางทรงวิ่งไป ภูมิประเทศเริ่มน่ากลัว เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกราวกับว่าพระนางกำลังเดินอยู่บนพื้นผิวของดวงดาว

ในที่สุดเจ้าหญิงก็เสด็จไปถึงกระท่อมของอาร์กอน ทรงทุบที่หน้าประตูพลางหอบหายพระทัย มันไม่มีที่จับประตูที่จะทรงใช้ได้ แต่พระนางทรงรู้ว่าที่นี่คือบ้านของเขา

“อาร์กอน!” เจ้าหญิงทรงตะโกน “นี่ข้าเอง! ลูกสาวพระราชาแม็คกิล! ให้ข้าเข้าไป! ข้าขอสั่งท่าน!”

เจ้าหญิงทรงทุบไม่หยุด แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ นอกจากสายลมพัดแรง

เจ้าหญิงทรงกรรแสงออกมาในที่สุด ด้วยความเหน็ดเหนื่อยและทรงรู้สึกสิ้นหวังที่อย่างไม่เคยเป็น พระนางทรงรู้สึกท้อแท้ เหมือนกับไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนได้อีก

ดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนลงจากท้องฟ้า แสงสีแดงจางลงในยามสนธยา เจ้าหญิงเกว็นทรงหันหลังแล้วเริ่มเสด็จกลับไปตามทางลงเขา พระนางทรงเช็ดน้ำตาจากพระพักตร์ พลางพยายามคิดหาหนทางต่อไป

“พระบิดาทรงโปรดด้วย” เจ้าหญิงตรัสเสียงดัง พลางหลับพระเนตรลง “ทรงบอกที โปรดแสดงให้ลูกเห็นว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป บอกลูกทีว่าต้องทำอะไร อย่าให้โอรสของพระองค์ต้องสิ้นไปในวันนี้ และได้โปรดอย่าให้ธอร์ต้องตาย หากพระบิดาทรงรักลูก ทรงตอบลูกด้วย”

เจ้าหญิงเกว็นทรงดำเนินไปเงียบ ๆ พลางฟังเสียงสายลม ทันใดนั้นทรงเกิดความคิดวาบขึ้นในพระทัย

ทะเลสาบ ทะเลสาบแห่งความเศร้า

ใช่แล้ว ทะเลสาบที่ผู้คนไปสวดภาวนาให้แก่คนที่ป่วยหนักใกล้ตาย มีทะเลสาบเล็ก ๆ ตามธรรมชาติอยู่กลางป่าเรดวู้ด ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงเสียดฟ้า ถือกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

ขอบพระทัยพระบิดาที่ให้คำตอบแก่ลูก เจ้าหญิงเกว็นทรงคิด

พระนางทรงรู้สึกว่าพระบิดาอยู่ด้วยยิ่งกว่าครั้งไหน เจ้าหญิงทรงออกวิ่ง มุ่งหน้าไปยังป่าเรดวู้ด ไปยังทะเลสาบที่จะรับฟังความเศร้าของพระนาง

*

เจ้าหญิงเกว็นทรงคุกพระชานุลงที่ริมตลิ่งของทะเลสาบแห่งความเศร้า พระชานุสัมผัสกับใบสนสีแดงนุ่ม ๆ ที่คลุมอยู่รอบผืนน้ำราวกับวงแหวน พระนางทอดพระเนตรไปยังผืนน้ำนิ่ง นิ่งสนิทที่สุดที่พระนางทรงเคยเห็น มันสะท้อนภาพดวงจันทร์ที่กำลังขึ้น ดวงจันทร์เต็มดวงงดงาม ดวงกลมยิ่งกว่าที่ทรงเคยเห็น และขณะที่อาทิตย์ดวงที่สองกำลังตก ดวงจันทร์กำลังขึ้น ทำให้เกิดทั้งแสงยามสนธยาและแสงจันทร์เหนืออาณาจักรวงแหวน ภาพดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สะท้อนอยู่ด้วยกัน คนละฝั่งในทะเลสาบ เจ้าหญิงทรงรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของช่วงเวลานี้ของวัน มันคือหน้าต่างระหว่างวันที่กำลังจะหมดลงกับการเริ่มต้นวันใหม่ในช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

เจ้าหญิงเกว็นทรงประทับอยู่เช่นนั้น พลางกรรแสงและภาวนาด้วยทุกสิ่ง เหตุการณ์ต่าง ๆ ในไม่กี่วันมานี้มันมากมายเกินไปสำหรับพระนาง ซึ่งเจ้าหญิงทรงปลดปล่อยมันออกมา พระนางสวดภาวนาเพื่อพระเชษฐา และยิ่งภาวนาเพื่อธอร์ เจ้าหญิงไม่อาจทนได้เมื่อทรงคิดว่าจะต้องสูญเสียทั้งสองคนไปในคืนนี้ จะไม่มีใครอยู่ด้วยอีกนอกจากกาเร็ธ ทรงทนไม่ได้หากจะต้องถูกส่งไปแต่งงานกับคนเถื่อน เจ้าหญิงทรงรู้สึกว่าชีวิตพังทลาย และพระนางทรงต้องการคำตอบ ยิ่งไปกว่านั้นพระนางทรงต้องการความหวัง

ประชาชนมากมายในอาณาจักรสวดภาวนาต่อเทพแห่งทะเลสาบ หรือเทพแห่งป่า หรือเทพแห่งภูเขา หรือเทพแห่งสายลม แต่เจ้าหญิงทรงไม่เคยเชื่อในเรื่องเหล่านี้ พระนางและธอร์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ต่อต้านความเชื่อทำนองนี้ในอาณาจักร และยึดมั่นในศรัทธาที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น พระผู้ควบคุมจักรวาลทั้งหมด เจ้าหญิงทรงสวดภาวนาต่อพระเจ้าองค์นี้

พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดเถิด เจ้าหญิงทรงภาวนา โปรดคืนธอร์ให้แก่ข้า ขอให้เขาปลอดภัยในการรบ ขอให้เขารอดพ้นจากการซุ่มโจมตี โปรดช่วยให้ก็อดฟรีย์รอดตาย และโปรดคุ้มครองข้า อย่าให้ข้าถูกพรากไปจากที่นี่ และต้องไปแต่งงานกับพวกป่าเถื่อน ข้ายอมทำทุกอย่าง ขอเพียงพระองค์ทรงส่งสัญญาณบอกข้า โปรดแสดงให้ข้าได้รู้ว่าทรงต้องการสิ่งใดจากข้า

เจ้าหญิงเกว็นทรงประทับอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน ได้ยินเพียงเสียงลมแรงพัดผ่านยอดสูงของต้นสนมากมายในป่าเรดวู้ด พระนางทรงได้ยินเสียงกิ่งไม้แตกขณะที่แกว่งไกวอยู่เหนือพระเศียร และเสียงลูกสนหล่นลงน้ำ

“จงระวังในสิ่งที่ทรงขอ” มีเสียงหนึ่งพูดขึ้น

เจ้าหญิงทรงหันไปด้วยความตกพระทัย และต้องประหลาดพระทัยที่เห็นบางคนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ห่างจากที่พระนางประทับอยู่ เจ้าหญิงเกว็นเกือบจะทรงหวาดกลัวหากแต่ทรงจำเสียงนั้นได้ในทันที เป็นเสียงที่ฟังดูโบราณ เก่าแก่กว่าต้นไม้เหล่านี้ แก่กว่าโลกนี้เองเสียอีก พระหทัยพองฟูขึ้นมาเมื่อทรงรู้ว่าเขาเป็นใคร

เจ้าหญิงเกว็นทรงหันไปเห็นเขายืนอยู่ สวมเสื้อคลุมสีขาวแบบที่มีผ้าคลุมศีรษะ ดวงตาเป็นประกายแผดเผาราวกับเขากำลังมองเข้าไปถึงพระวิญญาณของพระนางเลยทีเดียว เขาถือไม้เท้าที่สะท้อนแสงสนธยาและแสงจันทร์

อาร์กอน

พระนางทรงลุกขึ้นยืน เผชิญหน้ากับเขา

“ข้าไปหาท่าน” เจ้าหญิงตรัส “ข้าไปที่กระท่อมของท่าน ท่านได้ยินข้าเคาะประตูไหม?”

“ข้าได้ยินทุกสิ่ง” เขาทูลตอบอย่างคลุมเครือ

พระนางทรงนิ่งพลางสงสัย สีหน้าเขาไม่บ่งบอกอะไร

“บอกข้าทีว่าข้าต้องทำอะไร” เจ้าหญิงตรัส “ข้าจะทำทุกอย่าง ได้โปรด อย่าให้ธอร์ตาย ท่านจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้!”

เจ้าหญิงเกว็นทรงก้าวไปข้างหน้าและจับข้อมือเขาไว้ พลางตรัสขอร้อง แต่เมื่อพระนางสัมผัสตัวเขา ทรงรู้สึกแผดเผาด้วยความร้อนที่แล่นผ่านข้อมือของเขามาสู่พระหัตถ์ พระนางทรงปล่อยออกด้วยไม่อาจทนพลังงานนี้ได้

อาร์กอนถอนหายใจ หันหลังให้แล้วเดินไปทางทะเลสาบสองสามก้าว เขาหยุดยืน มองไปที่ผืนน้ำ ดวงตาสะท้อนแสงเป็นประกาย

เจ้าหญิงเสด็จตามไปแล้วทรงยืนนิ่งอยู่เป็นครู่ รอคอยจนกว่าเขาพร้อมที่จะพูด

“มันเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงชะตา” เขาทูล “แต่ผู้ร้องขอจะต้องจ่ายด้วยราคาแสนแพงอย่างแน่นอน ท่านต้องการช่วยชีวิต นั่นเป็นความพยายามที่สูงส่ง แต่ท่านไม่สามารถช่วยสองชีวิตได้ ท่านจะต้องเลือก”

เขาหันมาหาพระนาง

“ท่านจะเลือกธอร์หรือเชษฐาของท่านให้รอดในคืนนี้? คนหนึ่งต้องตาย มันถูกกำหนดไว้

เจ้าหญิงเกว็นทรงตกตะลึงกับคำถามนั้น

“นี่มันทางเลือกแบบไหนกัน?” เจ้าหญิงตรัส “หากเลือกคนหนึ่ง ข้าก็มอบความตายให้อีกคนหนึ่ง”

“มิใช่ท่าน” เขาทูลตอบ “ทั้งคู่จะต้องตาย ข้าเสียใจ แต่นี่คือชะตาของพวกเขา”

เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกราวกับถูกมีดแทงเข้าที่พระนาภี ทั้งคู่จะต้องตายอย่างนั้นหรือ? มันเลวร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน โชคชะตาโหดร้ายเพียงนี้เชียวหรือ?

“ข้าไม่อาจเลือกใครได้” เจ้าหญิงตรัสขึ้นอย่างอ่อนแรงในที่สุด “แม้ความรักของข้าที่มีต่อธอร์นั้นจะมากมายกว่า แต่ก็อดฟรีย์คือเลือดเนื้อของข้า ข้าไม่อาจทนได้หากคนหนึ่งต้องตายเพื่อให้อีกคนหนึ่งรอด และข้าไม่คิดว่าพวกเขาคนใดจะต้องการเช่นนั้น”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็จะต้องตาย” อาร์กอนทูลบอก

เจ้าหญิงเกว็นทรงตื่นตะหนก

“เดี๋ยวก่อน!” พระนางทรงร้องขึ้น เมื่อเขาจะหันหลังจากไป

เขาหันกลับมามองเจ้าหญิง

“แล้วข้าล่ะ?” เจ้าหญิงตรัสถาม “หากข้าตายแทนพวกเขาล่ะ? เป็นไปได้ไหม? ให้ทั้งสองคนรอด และข้าจะตายเองได้ไหม?”

อาร์กอนจ้องมองพระนางอยู่นาน ราวกับจะพิจารณาให้ถึงแก่น

“พระทัยของท่านนั้นบริสุทธิ์” เขาทูล “ท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ที่สุดในบรรดาแม็คกิลทั้งหมด พระบิดาของท่านทรงเลือกได้ฉลาด ใช่แล้ว พระองค์ทรงทำ...”

เสียงของอาร์กอนเงียบลงเมื่อเขามองเข้าไปในพระเนตรของพระนาง เจ้าหญิงเกว็นทรงรู้สึกอึดอัดแต่ไม่กล้าหันหนี

“เพราะการเลือกของท่าน เพราะความเสียสละของท่านในคืนนี้” อาร์กอนทูล “โชคชะตารับฟังท่าน ธอร์จะปลอดภัยในคืนนี้ เช่นเดียวกับเชษฐาของท่าน ท่านเองก็จะมีชีวิตอยู่ แต่ส่วนเล็ก ๆ ของชีวิตท่านจะต้องสูญไป จงจำไว้ ทุกอย่างมีราคาเสมอ ท่านจะตายเพียงเศษเสี้ยวของความตายเพื่อแลกกับการมีชีวิตอยู่ของทั้งสองคน”

“หมายความว่าอย่างไร?” เจ้าหญิงตรัสถาม ด้วยความหวาดกลัว

“ทุกอย่างมีราคาของมัน” เขาทูลตอบ “ท่านได้เลือกแล้ว ท่านจะไม่จ่ายอย่างนั้นหรือ?”

เจ้าหญิงเกว็นทรงตั้งพระทัยให้เข้มแข็ง

“ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อธอร์” พระนางตรัส “และเพื่อครอบครัวของข้า”

อาร์กอนจ้องมองพระนาง

“ธอร์มีชะตาอันยิ่งใหญ่” อาร์กอนทูล “แต่ชะตาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โชคชะตาของเรานั้นขึ้นอยู่กับดวงดาวของเรา ซึ่งพระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุม พระเจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ธอร์ถูกกำหนดให้ตายในคืนนี้ เขาจะรอดอยู่ก็เพียงเพราะท่าน ท่านจะต้องจ่าย และราคานั้นค่อนข้างสูง”

เจ้าหญิงเกว็นทรงต้องการรู้มากกว่านั้น พระนางทรงยื่นพระหัตถ์ไปยังอาร์กอน แต่ทันใดนั้นเองก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นตรงหน้า แล้วอาร์กอนก็หายตัวไป

เจ้าหญิงเกว็นทรงหันหาเขาไปทุกทาง แต่ก็ไม่พบ

ในที่สุดพระนางทรงหันไปยังทะเลสาบที่ช่างนิ่งสงบ ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยในคืนนี้ เจ้าหญิงทรงเห็นภาพสะท้อนของพระนาง ดูช่างอยู่ห่างไกล เจ้าหญิงทรงรู้สึกซาบซึ้ง และสุขสงบได้ในที่สุด แต่ทรงอดรู้สึกกลัวไม่ได้กับอนาคตของพระนางเอง แม้จะพยายามผลักออกไปจากความคิดมากเพียงใด พระนางก็ทรงอดสงสัยไม่ได้ว่าราคาที่ต้องทรงจ่ายเพื่อชีวิตของธอร์นั้นคืออะไร?

เสียงร้องแห่งเกียรติยศ

Подняться наверх